posttoday

ล็อตใหญ่!ตำรวจภาค 1 จับยาบ้า 11.6 ล้านเม็ดไอซ์ 700 กก.

27 กรกฎาคม 2561

ตำรวจ ภาค 1 รวบแก๊งขนยาเสพติดล็อตมโหฬารยึดของกลางยาบ้า 11.6 ล้านเม็ด ไอซ์กว่า 700 กก. พฤติกรรมสุดแยบยล ขนใส่รถบรรทุกซุกซ่อน ตร.เร่งขยายผลหาตัวบงการ

ตำรวจ ภาค 1 รวบแก๊งขนยาเสพติดล็อตมโหฬารยึดของกลางยาบ้า 11.6 ล้านเม็ด ไอซ์กว่า 700 กก. พฤติกรรมสุดแยบยล ขนใส่รถบรรทุกซุกซ่อน ตร.เร่งขยายผลหาตัวบงการ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี ผกก.1 บก.สส.ภ.1 และเจ้าหน้าที่ บก.สส.ภ.1 ร่วมกันแถลงผลจับกุม นายจรัญ ก๋านนท์ อายุ 43 ปี ชาวจ.น่าน นางศรีคำ ปินตา อายุ 38 ปี ชาวจ.น่าน ภรรยาของนายจรัญ และนายชัน สวัสดี อายุ 47 ปี ชาวจ.ระยอง พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 11,600,000 เม็ด ไอซ์ 700 กก. (รวมมูลค่า 3,020,000,000 บาท) รถกระบะ ยี่ห้อ ฟอร์ด สีขาว ทะเบียน กว 7912 เชียงราย 1 คัน รถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 70-1838 พะเยา 1 คัน โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Telego 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ LAVA 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Wiko 1 เครื่องโดยสามารถจับกุมได้ที่บก.สส.ภ.จว.สิงห์บุรี

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก จากจังหวัดทางภาคเหนือมาในพื้นที่ภาคกลาง ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ลำเลียงยาเสพติดขับรถผ่าน จ.พะเยา มุ่งหน้าสู่พื้นที่ภาคกลาง โดยมีรถกระบะขับนำคอยดูต้นทางเพื่อตรวจสอบด่านของตำรวจ ให้กับรถบรรทุก 10 ล้อที่ขนยาเสพติดมา จึงตั้งจุดสกัด กระทั่ง เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา พบรถกระบะ ยี่ห้อ ฟอร์ด สีขาว ทะเบียน กว 9712 เชียงรายและรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อ ฮีโน่ ทะเบียน 79-1838 พะเยา ลักษณะต้องสงสัย จึงนำไปตรวจสอบที่บก.สส.ภ.จว.สิงห์บุรี จากการตรวจค้นรถบรรทุก 10 ล้อ พบยาบ้า จำนวน 58 กระสอบ รวม 11,600,000 เม็ด และไอซ์ บรรจุถุงพลาสติก รวมกว่า 700 กก. ซุกซ่อนมากับเม็ดข้าวโพดที่ทับอยู่บริเวณหลังรถบรรทุก โดยมีนายจรัญ เป็นคนขับ และนางศรีคำ ภรรยา นั่งมาด้วยกัน ส่วนรถกระบะ มีนายชัน เป็นผู้ขับ ภายในรถไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ พร้อมยึดยาบ้ากับไอซ์ไว้เป็นของกลางทั้งหมด ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ถือว่าเป็นเรือข่ายใหญ่ที่สุดที่ตำรวจภูธรภาค 1 จับกุมได้ หลังจากนี้ก็จะมีการขยายผลติดตามหัวหน้าขบวนการและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยต่อไปว่า เส้นทางที่ผู้ลำเลียงยาเสพติดใช้ คือ นำมาจากนอกประเทศทางภาคเหนือ คาดว่ามาจากกลุ่มว้าใต้ ผ่านทางจ.พะเยา ไล่ลงมา โดยยาเสพติดส่วนหนึ่งอาจจะเข้ามาใช้ในประเทศไทย อีกส่วนส่งต่อไปยังต่างประเทศ เพราะมีจำนวนมาก ทั้งนี้ ปกติผู้ค้ายาเสพติดจะทำการลำเลียงมาแล้วพักอยู่ในเขตปริมณฑล สิ่งสำคัญ คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำลายเครือข่าย ซึ่งผู้ต้องหา 3 คนที่จับกุมได้ครั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ไม่สังเกตก็ไม่อาจทราบได้ ยกเว้นแต่จะนำรถเข้าเครื่องเอกซเรย์ที่มีอยู่ไม่กี่จุด ซึ่งในขณะนี้ทาง ผบ.ตร. กำลังจะเพิ่มอีกหลายจุด

ขณะที่ พล.ต.ท.สุวัฒน์ เปิดเผยว่า คดีนี้ รถยนต์กระบะทำหน้าที่เป็นรถนำ (แต่ละครั้งทิ้งช่วงรถบรรทุกประมาณ 5-30 กม.) ส่วนรถบรรทุก 10 ล้อ เป็นรถขนยาเสพติด โดยนำข้าวโพดปิดมาด้วย จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้น ทราบว่า ทำลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง รถทั้งสองคันก็ได้มาจากการค้ายาเสพติด โดยนายชัน ซึ่งทำหน้าที่ขับรถกระบะนำ ได้ค่าจ้างขนยาเสพติดล็อตนี้ จำนวน 600,000 บาท ส่วนนายจรัญและนางศรีคำ สองสามีภรรยาได้ 700,000 บาท สำหรับวิธีการลำเลียง เมื่อรถกระบะที่ขับนำเห็นด่านของตำรวจก็จะขับเลยด่าน โดยส่งสัญญาณให้รถบรรทุกหาที่นอนพัก รอจนกว่าด่านตรวจจะเลิก บางครั้งก็รอให้ฝนตกก่อน เพราะหากเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจก็อาจเกิดอุบัติเหตุกับประชาชน อีกทั้ง ยังมีการศึกษาเส้นทางว่าจุดใดน่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะหลบเลี่ยงเส้นทางนั้น นอกจากนี้ การลำเลียงยาเสพติดทุกครั้ง จะมีการอำพรางแต่วิธีจะแตกต่างกัน ในครั้งนี้ซุกซ่อนมากับขี้วัว ข้าวโพด และพลาสติก.