ทางหลวง สรุปแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากถนนแจ้งวัฒนะ

กรมทางหลวง สรุปวิธีแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากถนนแจ้งวัฒนะ หมายเลข 304 

นายประภัทรเผ่า อาวะกุล ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาระบบบริหารงานบำรุง กรมทางหลวง เปิดเผยว่า ถนนแจ้งวัฒนะตั้งแต่วงเวียนหลักสี่ ถึงแยกปากเกร็ด จ.นนทบุรี ระยะทาง 13 กิโลเมตร เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก การจราจรติดขัดสะสม เนื่องจากสภาพพื้นที่เปลี่ยนแปลงจากเดิมเพราะมีการสร้างที่อยู่อาศัย เช่น คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า มีการทมที่ดินให้สูงกว่าถนน รวมถึงระบบระบายน้ำทิ้งจากแหล่งที่อยู่อาศัยไม่เพียงพอที่จะระบายออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้ จึงเป็นที่มาของโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมบนถนนทางหลวงหมายเลข 304 (แจ้งวัฒนะ) ซึ่งผ่านได้ระดมความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่มาแล้ว 2 ครั้ง และนำมาสรุปผลการศึกษาในการประชุมครั้งที่ 3 ก่อนนำข้อมูทั้งหมดไปดำเนินการก่อสร้างต่อไป

นายอวิรุทธ์ สุขสมอรรถ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม กล่าวว่า ผลสรุปรูปแบบการก่อสร้างและปรับปรุงระบบระบายน้ำที่เหมาะสมบนถนนแจ้งวัฒนะ ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด 3 อำเภอ/เขต ประกอบด้วย เขตบางเขน เขตหลักสี่ ในพื้นที่กรุงเทพฯและอ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยแบ่งโครงการออกเป็น 4 ช่วงดังนี้ 1.แม่น้ำเจ้าพระยา-ห้าแยกปากเกร็ด ระบายน้ำไปลงยังคลองบางตลาด เพื่อสูบต่อไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา โดยตั้งแต่คลองบางตลาดถึงถนนติวานนท์ ทำการขุดวางท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ใต้ผิวการจราจร และตั้งแต่ถนนติวานนท์ ถึงเชิงสะพานพระราม 4 ก่อสร้างด้วยการดันท่อลอด

ช่วงที่ 2. เชิงสะพานพระราม4 -คลองประปา ก่อสร้างด้วยวิธีดันท่อลอดสลับกับวิธีขุดวางท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.30 เมตรใต้ผิวการจราจร ช่วงที่ 3.คลองประปา-ถนนวิภาวดีรังสิต โดยตั้งแต่คลองประปาถึงเชิงสะพานข้ามคลองประปา ใช้ท่อระบายน้ำเดิม จากนั้นตั้งแต่ช่วงเชิงสะพานข้ามคลองประปา ทำการขุดวางท่อวางขนาดใหญ่ไปจนถึงห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาแจ้งวัฒนะ แล้วเปลี่ยนมาใช้วิธีดันท่อลอดไปจนถึงกรมการกงสุล จึงกลับมาใช้วิธีขุดวางท่อเช่นเดิมไปจนถึงคลองเปรมประชากร

และช่วงที่ 4.ถนนวิภาวดีรังสิต-วงเวียนหลักสี่ ตั้งแต่ถนนวิภาวดีรังสิตถึงเชิงสะพานข้ามถนนวิภาวดีรังสิต จะใช้ท่อเดิม จากนั้นขุดวางท่อขนาดใหญ่ไปสิ้นสุดถนนวิภาวดีรังสิต ถึงสะพานข้ามคลองแล้วจึงดำเนินการปรับปรุงท่อระบายน้ำเดิมไปยังวงเวียนหลักสี่

น.ส.จิตรดา ดำรงสุกิจ ผู้ชำนาญการด้านสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เนื่องจากการก่อสร้างต้องมีการขุด ถม เคลื่อนย้ายดินออกเพื่อวางท่อระบายน้ำอาจทำให้สูญเสียดินและเกิดการชะล้างทลายของดินที่ขุดออกมากองรอเคลื่อนย้าย ใช้วิธีแก้ปัญหาโดยกำหนดให้ก่อสร้างในช่วงฤดูแล้ง หากจำเป็นต้องทำในช่วงฤดูฝนให้อัดชั้นดินให้แน่นป้องกันชะล้างหน้าดิน ซึ่งดินที่ขุดไปต้องนำกลับมาถมในพื้นที่หน้าดินเดิมหลังก่อสร้างแล้วเสร็จ

ส่วนผลกระทบด้านอากาศ เสียง และความสั่นสะเทือน จากเครื่องจักรอาจมีการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง เสียงรบกวน ต่อประชาชนใกล้เคียง ใช้มาตรการแก้ปัญหาดังนี้ ฉีดน้ำพรมพื้นที่ก่อสร้าง กองวัสดุหินและทรายลดการฟุ้งกระจายวันละ 2 ครั้ง จากนั้นหมั่นตรวสอบรถบรรทุกเครื่องยนต์ดีเซล ลดมลภาวะทางอากาศให้เป็นไปตามมาตรฐาน กำหนดช่วงเวลาก่อสร้างตั้งแต่ 08.00-17.00น. ป้องกันเสียงรบกวนชุมชน แต่สำหรับกิจกรรมดันท่อลอดจำเป็นต้องทำในเวลากลางคืน พร้อมติดตั้งกำแพงกันเสียงชั่วคราวแบบแผ่นโลหะความสูง 2 เมตร

ผลกระทบด้านคมนาคม เนื่องจากจำเป็นต้องปิดพื้นที่เกาะกลางถนนแจ้งวัฒนะ 1 ช่องจราจร ใช้มาตรการแก้ปัญหาโดยหลีกเลี่ยงขรอุปกรณ์โครงการในช่วงเวลาเร่งด่วนตั้งแต่ 07.00-10.00น. และช่วง16.00-19.00น. บริษัทรับเหมาต้องดูแลจัดเก็บอุปกรณ์และเครื่องจักรให้เรียบร้อยไม่กีดขวางจราจร หากมีทางเบี่ยงเข้าออก ต้องมีป้ายสัญลักษณ์บอกทางที่ชัดเจน รวมถึงมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในช่วงเร่งด่วนเช้า-เย็น

นอกจากนี้ การก่อสร้างจะทำไปพร้อมกับโครงการสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู เพื่อลดปัญหาการจราจร  เบื้องต้นคาดว่าใช้งบประมาณก่อสร้างจำนวน 1,800 ล้านบาท