ถาม-ตอบทีมหมูป่าเล่าเรื่องชีวิตในถ้ำหลวง เผยกินน้ำประทังชีวิต-ขุดถ้ำหาทางออก
เนื้อหาถาม-ตอบระหว่างพิธีกรและทีมหมูป่า เล่าเรื่องราวชีวิตขณะติดในถ้ำหลวง ความรู้สึกถึงจ่าแซม และบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์ครั้งนี้
เนื้อหาถาม-ตอบระหว่างพิธีกรและทีมหมูป่า เล่าเรื่องราวชีวิตขณะติดในถ้ำหลวง ความรู้สึกถึงจ่าแซม และบทเรียนที่ได้รับจากเหตุการณ์ครั้งนี้
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. เวลา 18.00 น. รายการเดินหน้าประเทศไทย ตอนพิเศษ "ส่งทีมหมูป่ากลับบ้าน" โดยเป็นครั้งแรกที่เยาวชนทีมหมูป่าพร้อมผู้ฝึกสอนได้ออกมาพูดคุยกับสื่อมวลชนหลังจากได้รับการช่วยเหลือออกจากถ้ำหลวง และเข้ารับการฟื้นฟูร่างกายที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
ทั้งนี้ในรายการได้มี นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือหมอภาคย์ ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์, นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และนักจิตวิทยา เข้าร่วมด้วย โดยจัดขึ้นที่ อาคารคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย
การพูดคุยครั้งนี้ โค้ชเอกและเด็กๆได้เล่าเรื่องราวตั้งแต่ก่อนเข้าไปในถ้ำจนกระทั่งได้รับการช่วยเหลือออกมา และความตั้งใจหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้อย่างน่าสนใจ ผ่านการถาม-ตอบกับพิธีกรดังนี้
**************
พิธีกร : วินาทีที่เห็นนักดำน้ำอังกฤษ ได้มีการพูดคุยกันอย่างไรบ้าง?
อดุลย์ สามออน (อดุลย์) : ตอนนั้นพวกเราขุดผนังถ้ำอยู่ด้านบนเนิน ได้ยินเสียงคนพูดกัน โค้ชเอกบอกว่า ให้เงียบเพราะได้ยินคนคุยกัน เราจึงหยุดและฟัง เมื่อได้ยินเป็นเสียงคน จึงให้ มิกซ์ (ด.ช.ภานุมาศ แสงดี) ลงไปก่อน เพราะมิกซ์ถือไฟฉาย แต่มิกซ์กลัว ผมจึงเอาไฟฉายลงไปเอง ตอนแรกคิดว่าเป็นคนไทย แต่เมื่อเห็นเขาโผล่ขึ้นมาจากน้ำเป็นชาวต่างชาติจึงทักไปคำแรกว่า "Hello" เขาถามว่า "How are you" ผมก็ตอบว่า เราโอเค เขาถามว่าทุกคนอยู่กี่วัน เราก็บอกว่าอยู่มา 10 วัน
เอกพล จันทะวงษ์ (โค้ชเอก) : ตอนนั้นอดุลย์ สนทนากับเจ้าหน้าที่ต่างประเทศ อดุลย์ก็ยังไม่แปล จึงบอกให้ใครรู้ภาษาอังกฤษให้ช่วยแปลด้วย บิว (ด.ช.เอกรัตน์ วงศ์สุขจันทร์) จึงแปลให้ฟัง
อดุลย์
**************
พิธีกร : ทีมหมูป่าได้ชมฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศไหม?
โค้ชเอก : ได้ดูสดครับ คืนนั้นหมดอนุญาตให้เชียร์เต็มที่เลยครับ น้องมาร์ช (ด.ช.มงคล บุญเปี่ยม) เชียร์ดังสุด
มาร์ช : คืนนั้นเชียร์ฝรั่งเศสครับ พอเห็นนักกีฬาที่ชอบยิงเข้าก็รู้สึกดีใจครับ ผมชอบกรีซมันน์ (อองตวน กรีซมันน์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส)
**************
พิธีกร : สาเหตุที่เข้าไปในถ้ำคืออะไร?
โค้ชเอก : เราได้ปรึกษากันในทีม น้องๆบอกว่า พี่ไปเที่ยวถ้ำหลวงกันไหมเพราะไม่เคยไปเลย ผมจึงบอกว่า ไปกันก็ได้ จะเป็นคนนำไป จึงวางโปรแกรมไปเตะฟุตบอลอุ่นเครื่องกันที่สนามก่อน พออุ่นเครื่องเสร็จก็พากันไปที่ถ้ำ เพื่อจะไปศึกษาในถ้ำ เพราะต่างคนต่างอยากเห็น มีน้องๆหลายคนยังไม่เคยไปเลย
ก่อนหน้านี้ผมเคยเข้าไปมาแล้ว ตอนนั้นเข้าไปลึกเกินกว่าเนินนมสาว ครั้งที่แล้วที่เคยเข้าไปเกิดเหตุการณ์คือที่สามแยกมีน้ำขังนิดๆ ซึ่งเมื่อเข้าไปครั้งนี้ก็เหมือนกัน ผมบอกน้องๆว่า มีเวลา 1 ชั่วโมง เพราะต้องออกมาจากถ้ำก่อนห้าโมง เนื่องจากต้องส่งน้องตั้น (ด.ช.ชนินทร์ วิบูลย์รุ่งเรือง) ไปเรียนพิเศษ
**************
พิธีกร : รู้ว่าติดถ้ำตอนไหน?
โค้ชเอก : ตอนกำลังกลับออกมาครับ ก่อนที่จะกลับเราเข้าไปเลยเนินนมสาวไปถึงจุดที่เรียกว่าเมืองลับแลหรือเมืองบาดาล ก็ถามกันว่าจะเข้าไปสำรวจไหม แต่ต้องว่ายน้ำเข้าไป ทุกคนก็บอกว่าไป ซึ่งทั้งหมดว่ายน้ำเป็น แต่บางคนยังว่ายน้ำไม่แข็ง ซึ่งหลังจากซ้อมบอลเสร็จผมจะพาน้องๆไปว่ายน้ำตลอด
ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าน้ำขึ้นหรือไม่ น้องตี๋ (นายพรชัย คำหลวง)เป็นคนเข้าไปดูเพื่อเช็คระดับน้ำ พอตี๋ขึ้นฝั่งได้ก็บอกให้ทุกคนตามไป พอผมไปถึงที่ตี๋อยู่ ผมก็เช็คก็เจอว่า ข้างหน้าเป็นน้ำทั้งหมดจึงดูนาฬิกาก็เห็นว่าเกินเวลา 1 ชม.ที่ตั้งใจจะเข้ามาแล้ว จึงปรึกษากันและตัดสินใจกลับออกมา
จากนั้นก็เดินกลับออกมาปกติ พอมาถึงสามแยก บิว (ด.ช.เอกรัตน์ วงศ์สุขจันทร์) ตะโกนมาว่าเจอน้ำ มีบางคนถามว่าหลงทางหรือเปล่า ผมบอกไม่หลง เพราะมีทางเข้า-ออกทางเดียว จึงให้น้องจับเชือกที่มัดกับผมไว้และผมก็มุดลงไปดูใต้น้ำก็พบว่า ข้างล่างเป็นทรายอุดอยู่หมดและเป็นหิน จึงกระตุกเชือกให้น้องๆดึงกลับขึ้นมา
โค้ชเอก
**************
พิธีกร : ตอนนั้นรู้สึกอย่างไร?
เด็กๆ : กลัวที่ไม่ได้กลับบ้าน และโดนแม่ด่า คิดว่าเดี๋ยวก็คงได้ออก ตอนนั้นก็ตั้งสติกัน พยายามไม่ตกใจ บอกกันและกันว่า สู้ต่อไม่ต้องท้อ
โค้ชเอก : ผมบอกกับน้องๆว่าออกไปไม่ได้แล้วต้องหาเส้นทางใหม่ จึงเสนอว่ามาขุดร่องให้น้ำระบายมา ตอนนั้นเกือบ 5 โมงเย็น เราหาหินมาขุดกันเรื่อยๆ แต่ขุดเท่าไหร่น้ำก็ไม่ลดลง ตี๋บอกว่าไปหาที่นอนก่อนไหมเพราะเริ่มมืดแล้ว ตอนนั้นหกโมงกว่า เราก็ตกลงกันว่าจะไปหาที่นอนพักกันในถ้ำ ผมยังบอกน้องๆว่า ไม่เป็นไรอาจเป็นปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงพรุ่งนี้อาจจะออกได้
**************
พิธีกร : มีอาหารติดตัวเข้าไปไหม?
โค้ชเอก : ไม่มีเลยครับ เพราะกินกันที่สนามแล้ว หลังจากตัดสินพักกันในถ้ำก็เดินถอยจากจุดสามแยกเข้าไปข้างในสามร้อยเมตร เจอน้ำย้อยจากหิน จึงพากันนอนค้างคืนบนเนินทรายตรงนั้น ก่อนนอนก็พากันไหว้พระก่อนนอน ตอนนั้นไม่กลัวเพราะคิดว่าพรุ่งนี้น้ำน่าจะลดลง
**************
พิธีกร : เอาตัวรอดอย่างไร
ตี๋ : ตลอดเวลาที่ติดอยู่ ผมก็จะพาน้องๆหาทางออก ส่วนใหญ่ผมจะดูเวลาตลอด หาแหล่งน้ำกินในถ้ำ กินน้ำจากหินย้อย น้ำสะอาดครับ เรากินน้ำกันอย่างเดียวเลย
ตี๋
**************
พิธีกร : รู้สึกว่าร่างกายเราอ่อนแอไหม
ตี๋ : วันแรกไม่รู้สึกร่างกายอ่อนแอ พอวันที่สองถึงเริ่มรู้สึก โค้ชเอกบอกให้ทุกคนอยู่นิ่งๆ ผมก็ให้น้องที่มีไฟฉายแรงๆ ปิดไว้ก่อนและเก็บไว้ใช้ทีหลัง
ตั้น : ระหว่างติดอยู่ก็หิวครับ ไม่มีแรง พยายามไม่คิดถึงกับข้าว เดี๋ยวจะทำให้หิวมากกว่าเดิม
เด็กๆ : ก็กินน้ำกันให้อิ่มๆ ยามว่างก็ไปขุดผนังถ้ำ เอาก้อนหินขุด ขุดไปได้ประมาณ 3-4 เมตร
**************
พิธีกร : ขุดเพื่ออะไร?
โค้ชเอก : เราขุดเพื่อหาทางออกครับ วันนั้นติดอยู่ประมาณวันที่ 4-5 เราก็ปรึกษากันเพื่อหาทางออก มีน้องๆเคยมาเข้าค่ายที่ถ้ำเคยได้ยินเจ้าหน้าที่บอกว่ามีทางออกอยู่ปลายถ้ำ เราก็ปรึกษากันว่าเรามีความเสี่ยง เพราะถ้าไปปลายถ้ำไม่มีทางออกก็ถูกปิดตายสองชั้น เราจึงมาอยู่ที่เนินนมสาวเพื่อปรึกษากันว่าจะรอที่นี่เพื่อจะให้เจ้าหน้าที่มาหรือจะทำอะไรต่อ แต่ช่วงนั้นเราเห็นน้ำขึ้นมาต่อเนื่อง 3ชั่วโมงน้ำขึ้น 3 เมตร จึงบอกกันว่า เราต้องรอเจ้าหน้าที่มาเจออย่างเดียวแล้ว จึงพากันขึ้นไปอยู่บนเนินสูงและขุดผนังถ้ำเพื่อหาทางออกเพิ่มเติม
เราเปลี่ยนกันขุดเรื่อยๆพอคนนึงขุดจนเหนื่อยก็เปลี่ยนคนอื่นมาขุดต่อ ก่อนไปขุดเราจะกินน้ำให้อิ่ม แล้วขึ้นไปขุด ขุดอยู่ทั้งวันตอนค่ำก็ลงมาด้านล่างเพื่อนอน
**************
พิธีกร : ความทรงจำต่อหน่วยซีลเป็นอย่างไร
โค้ชเอก : เราผูกพันเหมือนครอบครัวเดียวกัน เรากินก็กินด้วยกัน นอนก็นอนด้วยกัน
เด็กๆ : ความรู้สึกเหมือนพ่อ เพราะพี่ใบเตย (หนึ่งในหน่วยซีลที่อยู่ในถ้ำกับทีมหมูป่า)เรียกว่าลูก และรู้สึกดีใจพี่เขาหาอะไรให้พวกเราทำ เล่าเรื่องต่างๆให้ฟัง
หมอภาคย์ : เราสนิทกันทุกคน ระยะเวลา 9 วันเป็นช่วงที่เราต้องแบ่งปันกันและกัน เราต้องไปดูแลทำอะไรให้ปลอดภัย ผมเองก็มีลูก หน่วยซีลที่เข้าไปด้วยกันก็มีลูก เรามองเด็กด้วยความรู้สึกเอ็นดู เหมือนครอบครัว
**************
พิธีกร : ความรู้สึกถึงจ่าแซม
โค้ชเอก : พวกเรารู้สึกประทับใจในตัวจ่าแซมที่เสียสละชีวิตในการปกป้องทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิต ทุกคนพอรู้ข่าวว่ามีคนเสียสละชีวิตเพื่อเรา ทุกคนก็ช็อคและเสียใจมาก รู้สึกว่าเหมือนตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวของพี่จ่าต้องเดือดร้อน
จากนั้นมีหมอมากบอกว่า มีรูปจ่าแซมมาจะทำยังไง ทุกคนก็เห็นตรงกันว่า เรามาเขียนข้อความถึงครอบครัวจ่าแซมกัน
**************
พิธีกร : ขอให้อ่านข้อความที่ทุกคนเขียนไว้ถึงจ่าแซม
ตั้น : ขอแสดงความเสียใจด้วยครับขอให้ท่านสู่สุขคติ, ขอขอบพระคุณท่านที่เสียสละทั้งกายและใจครับ, ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวคุณจ่าอย่างสุดซึ้ง, ขอกราบขอบพระคุณครอบครัวคุณจ่าและคุณจ่าครับ, ขอให้คุณจ่าหลับให้สบาย, ขอให้คุณจ่าไปสู่สุขคติ ขอขอบพระคุณจากใจจริงครับ
**************
พิธีกร : บทเรียนครั้งนี้สำหรับทีมหมูป่าคืออะไร
โค้ชเอก : บทเรียนครั้งนี้ คือ ซาบซึ้งในน้ำใจของทุกๆท่าน ทุกๆคนที่ช่วยเหลือ หลังจากนี้ก็จะใช้สติ จะใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าจะใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ถ้าจะทำอะไรก็จะเช็คให้ดีก่อนว่าควรทำหรือไม่ควรทำ
ตี๋ : ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างเกี่ยวกับภัยครั้งนี้ ตั้งใจจะเป็นคนดีของสังคมครับ
อดุลย์ : ผมคิดว่าการที่ประมาทในชีวิตขอตน มันเป็นสิ่งที่เราไม่ได้คาดคิดไว้ เราไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเจอกับอะไร ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้รู้ว่า การใช้ชีวิตโดยไม่คิดก่อนทำ มันเป็นสิ่งที่ส่งผลที่จะดีหรือไม่ดีให้กับเราในวันข้างหน้า ผมจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุด ขอบคุณครับ
มาร์ช : ผมมีความฝันเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เหตุการณ์นี้ทำให้เข้มแข็ง และอดทนครับ
ตั้น : ประสบการณ์ครั้งนี้เป็นประสบการณ์ครั้งใหญ่ต่อตัวของผม ได้รู้คุณค่าต่างๆในตัวเอง ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้ผมอดทนเข้มแข็งขึ้นและก็ไม่ท้อ
บิว : อยากทำตามความฝันเหมือนเดิม คืออยากเป็นนักฟุตบอล แต่อาจมีอาชีพขึ้นมาเพิ่มคืออยากเป็นหน่วยซีลด้วยครับ
เด็กๆที่เหลือ : อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และเป็นหน่วยซีลจะได้ช่วยเหลือผู้อื่น, อยากเรียนจบสูงๆได้ทำงานดีๆอยากเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ อยากติดทีมชาติ
ตั้น
**************
พิธีกร : ถ้ามีคนชวนกลับไปถ้ำจะไปไหม
โค้ชเอก : ถ้ามีคนชวนอาจไม่ไป แต่ถ้ามีหน่วยงานให้ไปเป็นไกด์ก็อาจจะไปครับ แต่เป็นไกด์แค่หน้าถ้ำ
**************
พิธีกร : ตอนที่ออกจากถ้ำมีการเลือกอย่างไรว่าใครจะออกก่อน-หลัง
โค้ชเอก : การเลือกออกมาจะเป็นผมกับพี่ๆหน่วยซีลเป็นคนพิจารณาร่วมกันว่าใครออก น้องๆทุกคนบอกว่าใครออกก่อนก็ได้ เราจึงตกลงกันว่า ให้คนบ้านอยู่ไกลออกก่อน เพราะน้องๆวางแผนว่าออกไปจะปั่นจักรยานกลับบ้าน และไปบอกข่าวทางบ้าน พร้อมให้เตรียมกับข้าวไว้
หมอภาคย์ : การคัดเลือก ผมคุยกับ ดร.แฮร์ริส พบว่าทุกคนแข็งแรงใกล้เคียงกัน จึงปรึกษากันว่าจะเอาออกยังไง ดร.แฮร์ริสบอกว่าไม่เป็นไร ใครออกก่อนก็ได้ จึงให้โค้ชเอกคัดเลือกตามความสมัครใจ
**************
พิธีกร : จะทำอะไรเมื่อเจอคุณพ่อคุณแม่
เด็กๆ : อยากขอโทษคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นเด็กดื้อ ไม่ได้บอกว่าจะมาเข้าถ้ำ ได้รับรู้ถึงความรักของพ่อแม่
**************
พิธีกร : จากนี้จะทำอะไรบ้าง
โค้ชเอก : ทุกคนจะไปบวชเพื่อุทิศส่วนกุศลให้จ่าแซม จะบวชพร้อมกันหมดเลยครับ