กรมอุทยานฯจับร้านลอบขาย"ปะการัง"ย่านจตุจักร

เจ้าหน้าที่อุทยานฯบุก ตลาดศรีสมรัตน์ย่านจตุจักร จับร้านค้าลอบขาย "ปะการัง" เผยมีนายหน้านำมาจากทะเลเพื่อมาส่งถึงตลาด

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่า (ชุดเหยี่ยวดง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำโดยนายถิรเดช ปาละสุวรรณ หัวหน้าชุดฯ นายนุวรรต ลีลาพตะ รองหัวหน้าชุดฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 เจ้าหน้าที่ สปป.ที่ 1 ภาคกลาง นำโดยนายชาติชาย ศรีแผ้ว ตำรวจ บก.ปทส.นำโดย พ.ต.ท.ชัช แสงฉาย สว.กก.1 เจ้าหน้าตำรวจ สน.บางซื่อ เจ้าหน้าที่กรมประมง นำโดยนายเกรียงไกร จิรปีติกุล และนายนิพนธ์ พงศ์สุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สนธิกำลังกันนำหมายค้นจากศาลอาญา เข้าตรวจสอบร้านค้าสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทปะการังในบริเวณตลาดศรีสมรัตน์ บริเวณติดต่อกับตลาดนัดจตุจักร หลังห้างเจเจมอลล์ ถ.กำแพงเพชร 2 แขวง/เขตจตุจักร กทม.

ทั้งนี้เนื่องจากได้รับการร้องเรียนผ่านกระทรวงทรัพยากรฯ ว่า บริเวณตลาดนี้มีการลักลอบจำหน่ายสัตว์น้ำประเภทปะการัง กัลปังหา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองหลายร้าน

ผลการตรวจสอบร้านแรกพบสัตว์ป่าคุ้มครอง ชนิดปะการังแข็ง ในอันดับ (Order Scleractinia จำนวน 9 กอ ปะการังอ่อน ในอันดับ (Order) Alcyonacea 15 กอ ขณะที่ ร้านที่สอง ซึ่งอยู่ติดกับร้านแรก สายลับได้แจ้งว่าช่วงเช้าเจ้าของได้มาเปิดร้าน แต่ขณะเจ้าหน้าที่ไปถึง ได้มีการปิดร้านหลบไปแล้ว เจ้าหน้าที่จึงใช้เครื่องมือตัดกุญแจ โดยให้เจ้าของร้านข้างเคียงทั้งสองด้านมาเป็นพยานในการตัดทำลายกุญแจ เปิดประตูร้านและเข้าไปตรวจสอบภายใน พบว่ายังเปิดเครื่องปรับอากาศทิ้งไว้ ตรวจพบซากปะการังแข็งใจำนวน 29 ชิ้น และ 3.ตรวจสอบในบริเวณใกล้เคียง พบอีกร้านค้าจำหน่ายปะการังอ่อนจำนวน 3 กอทั้ งนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบถามร้านค้าระบุว่ามีผู้รวบรวมนำปะการังมาส่งให้บริเวณตลาด แต่ไม่ยอมบอกว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร

เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้เจ้าของร้านทราบว่า การกระทำดังกล่าว เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ฐาน มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และฐานค้าสัตว์ป่าคุ้มครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปทส.เพื่อดำเนินคด ส่วนของกลางขออนุมัติจากพนักงานสอบสวนนำส่งให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งสมุทรสาคร กรมประมงดูแลรักษาต่อไป