posttoday

เผยข้อมูลลูกหนี้เป็นเหยื่อเงินติดล้อนับแสนคนมูลค่าเสียหายนับหมื่นล.

17 กรกฎาคม 2561

ลูกหนี้แห่ร้องตำรวจฟัน!"เงินติดล้อ"โขกดอกเบี้ยเกินอัตรากฏหมายกำหนดคาดมีเหยื่อกว่าแสนคนเสียหายนับหมื่นล้านบาท

ลูกหนี้แห่ร้องตำรวจฟัน!"เงินติดล้อ"โขกดอกเบี้ยเกินอัตรากฏหมายกำหนดเผยข้อมูลก.พาณิชย์ปี60มีเหยื่อกว่าแสนคนเสียหายนับหมื่นล้านบาท

นายศุภวุฒิ  อยู่วัฒนา ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของกลุ่มพิทักษ์สิทธิ์ลูกหนี้ เปิดเผยว่า ขณะนี้ มีลูกหนี้สินเชื่อจำนวนมากได้ทยอยเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายท้องที่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับบริษัท เงินติดล้อ จำกัด ในข้อหาคิดอัตราจากดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด  โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ก.ค.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ได้มีบันทึกข้อความไปยังผู้กำกับ สภ.บางกรวย เพื่อแจ้งความคืบหน้ากรณี สภ.บางกรวย ได้ทำหนังสือลงวันที่ 28 มิ.ย.61 ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ส่งหมายเรียกผู้ต้องหาไปยังกรรมการ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด และพนักงานสาขารวม 7 ราย ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารอารีย์ ฮิลล์ เขตสอบสวนของ สน.บางซื่อ โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดส่งหมายเรียกดังกล่าวไปยังบริษัทเรียบร้อยแล้ว โดยมีฝ่ายกฎหมายของบริษัทเป็นผู้รับหมายเรียกไว้แทน โดยกำหนดให้ผู้ต้องหาเข้ารายงานตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวยในวันที่ 20 ก.ค.นี้

ทั้งนี้ ในบันทึกแจ้งความเอาผิดกับบริษัทฯ ลิสซิ่ง ดังกล่าว ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท เงินติดล้อ ไม่ได้เป็นสถาบันการเงินตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ.2551 ที่จะสามารถคิดดอกเบี้ยได้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่เป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  ให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับอันเป็นสินเชื่อที่ไม่มีทรัพย์เป็นหลักประกัน ซึ่งสามารถจะเรียกดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ หรือค่าธรรมเนียมใดๆ รวมกันไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี และแม้บริษัทจะได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ(นาโนไฟแนนซ์) โดยสามารถปล่อยกู้ให้ลูกหนี้รายย่อยได้ไม่เกินรายละ 100,000 บาท และสามารถเรียกดอกเบี้ยค่าบริการต่างๆ รวมกันแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี แต่สินเชื่อดังกล่าวไม่รวมถึงสินเชื่อที่เกิดจากการให้สินเชื่อจำนำรถจักรยานยนต์

ดังนั้น การที่บริษัทฯ ดำเนินการปล่อยเงินกู้ยืมเงินให้แก่ลูกหนี้โดยเรียกทรัพย์ค้ำประกันด้วย จึงไม่เข้าเกณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย แต่ต้องอยู่ภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) ประกอบ พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 ที่ห้ามมิให้เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดคือร้อยละ 15 ต่อปี โดยผู้กระทำผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน  2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“จากงบการเงิน ที่บริษัทเงินติดล้อ แจ้งต่อกระทรวงพาณิชย์ปี พ.ศ. 2560 คาดว่าจะมีจำนวนผู้เสียหายหลายแสนคน และมีมูลค่าความเสียหากกว่าหมื่นล้านบาท หากการสอบสวนพบว่าบริษัท เงินติดล้อผิดจริง  ทั้งนี้ คาดว่ามีผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งที่รู้ตัวและยังไม่รู้ตัวว่ากำลังตกเป็นเหยื่อ หากผู้เสียหายรายใดต้องการความช่วยเหลือหรือขอคำปรึกษา สามารถติดต่อมายังเพจเฟซบุ๊ก “กลุ่มพิทักษ์สิทธิ์ลูกหนี้” หรือ Line : @cfpth หรือ โทร 02-726-2255” นายศุภวุฒิ กล่าว