posttoday

ธวัชชัย แนะควรแยกประเด็น "ช่วยเด็กติดถ้ำกับเด็กยากจน" ไม่เช่นนั้นประเทศจะติดกับดัก

15 กรกฎาคม 2561

รองปลัด.ยุติธรรม มองการจะช่วยเด็กติดถ้ำกับช่วยเด็กยากจนต้องคิดแยกกัน ไม่เช่นนั้นประเทศจะติดกับดักเดินต่อไปไม่ได้

รองปลัด.ยุติธรรม มองการจะช่วยเด็กติดถ้ำกับช่วยเด็กยากจนต้องคิดแยกกัน ไม่เช่นนั้นประเทศจะติดกับดักเดินต่อไปไม่ได้

เมื่อวันที่ 15 ก.ค.  หลังสังคมมีการวิพากษ์วิจารณ์ กรณีที่หลายหน่วยงานได้ออกมาประกาศแสดงความจำนงให้ความช่วยเหลือรวมถึงมอบสิทธิ์ต่างๆ ให้กับเยาวชนและโค้ชทีมฟุตบอลที่เข้าไปติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย

นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม โพสต์มองกรณีดังกล่าวว่า การคิดเห็นเรื่องดังกล่าวควรแยกความคิดกัน ระหว่างการอนุเคราะห์ช่วยเหลือเด็กติดถ้ำกับเด็กยากจน ซึ่งการช่วยเหลือเด็กยากจนเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรหาวิธีและดำเนินการ ส่วนการให้ความช่วยเหลือเด็กติดถ้ำ ก็เป็นเรื่องที่มีคณูปการซึ่งควรดำเนินการไปเช่นกัน ไม่ควรคิดเหมารวมเพราะจะทำให้ประเทศติดกับดักเดินต่อไปไม่ได้

“น่าเสียดายที่เราคิดและทำแบบแยกส่วน ไม่คิดสัปปายะหรือเอาสิ่งที่เหมาะกัน สิ่งที่เกื้อกูล ช่วยสนับสนุนกันและกัน จึงทำให้ประเทศนี้ติดกับดัก

ต้องแยกส่วนคิด ระหว่างการอนุเคราะห์ช่วยเหลือเด็กติดถ้ำกับเด็กยากจน เรื่องเด็กยากจนผมเห็นด้วยว่าต้องทำและช่วยเหลือ ผู้มีหน้าที่ต้องรับไปคิดและทำ การคิดเหมาโหลเราก็จะติดกับดักเดินต่อไปไม่ได้ เช่น ปัญหาด้านอำนวยการยุติธรรมการออกกฏหมายต้องปฏิบัติอย่างเสมอภาคเท่าเทียมและทั่วถึงจึงจะเรียกว่า “ความยุติธรรม” แต่ในความยุติธรรมดังกล่าวข้างต้น ยังมีความ “อยุติธรรม” ซ่อนอยู่นั่นคือ “คนมีไม่เท่ากัน” เราจึงต้องมีการจัดตั้งกองทุนยุติธรรมขึ้นมาช่วยเหลือคนจนคนด้อยโอกาสให้สามารถเข้าถึงการอำนวยยุติธรรมเท่ากับคุณอื่นที่มีมากกว่า ด้วยการออกค่าเงินค่าจ้างทนายความ ค่าปล่อยตัวชั่วคราว

กรณีเด็กติดถ้ำก็เฉกเช่นเดียวกัน คณูปการจากกรณีนี้ ประมาณค่าไม่ได้ก็ดำเนินการไป กรณีเด็กยากจนก็เป็นอีกฝั่งฝาที่เราก็ต้องทำเฉกเช่นเดียวกัน แต่ต้องแยกส่วนคิด แยกส่วนทำ และจะทำอย่างไรก็ต้องช่วยกันคิดขยับขับเคลื่อนกันต่อไป”

ก่อนหน้านี้ นายธวัชชัย ได้โพสต์สนับสนุน ซึ่งมองว่าการให้ประโยชน์กับเด็กถือว่าเป็นการปลอบขวัญแทนการสวมกอด เพราะเด็กเหล่านั้นยังสามารถทำประโยชน์ให้สังคมและประเทศได้อีกมาก