posttoday

ตำรวจเผยก่อนเหตุเรือล่มภูเก็ตมีมรสุมหาหลักฐานมัดผู้สั่งการให้ออกฝั่ง

07 กรกฎาคม 2561

ตำรวจเผยก่อนเหตุเรือท่องเที่ยวล่มภูเก็ตมีมรสุมกำลังรวบรวมหลักฐานเอาผิดผู้สั่งการให้ออกจากฝั่งแถมเรือไม่ได้มาตรฐานกรมเจ้าท่าจ่อถอนทะเบียนและเจ้าของบริษัทเป็นนอมินีต่างชาติ

ตำรวจเผยก่อนเหตุเรือท่องเที่ยวล่มภูเก็ตมีมรสุมกำลังรวบรวมหลักฐานเอาผิดผู้สั่งการให้ออกจากฝั่งแถมเรือไม่ได้มาตรฐานกรมเจ้าท่าจ่อถอนทะเบียนและเจ้าของบริษัทเป็นนอมินีต่างชาติ

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกเจ้าของเรือ2ลำที่ประสบเหตุเรือล่มที่จ.ภูเก็ตมาสอบปากคำ จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า มีกลุ่มบุคคลที่อาจถูกแจ้งข้อกล่าวหาแล้วมากกว่า 2 คนขึ้นไป แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ว่าจะเป็นบุคคลใดบ้าง เนื่องจากอยู่ในสำนวนการสอบสวนและได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมให้พนักงานสอบสวนในคดีสอบสวนเพิ่มเติม ประเด็นที่ผู้ควบคุมเรือทั้ง 2 บริษัท และส่วนที่เกี่ยวข้องไม่ได้ต้องการนำเรือออกในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะไปเจอมรสุม แต่นักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มหนึ่งกดดันลูกเรือจนจำเป็นต้องออกเดินเรือ และไปประสบเหตุ หากพบว่ามีข้อเท็จจริงตรงกับพยานหลักฐาน ก็จะดำเนินการกับนักท่องเที่ยวกลุ่มที่กดดันจนทำให้ต้องออกเดินเรือในช่วงเวลาดังกล่าว

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า เรือที่ประสบเหตุทั้งสองลำเป็นเรือที่ไม่ได้มาตรฐาน จะต้องมีระบบที่ใช้ในการระบายหรือขับน้ำออกจากเรือ และทราบข้อมูลจากกรมเจ้าท่าว่า จะถอนทะเบียนเรือ และคนขับเรือทั้งสองลำ บริษัทเจ้าของเรือทั้งสองบริษัท มีลักษณะเข้าข่ายการเป็นนอมินีโดยมีชาวต่างชาติว่าจ้างให้คนไทยเป็นผู้จัดการ หรือเป็นเจ้าของบริษัทเรือแทน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เจ้าของคนไทยมีรายได้ไม่มาก แต่กลับกลายเป็นเจ้าของธุรกิจพันล้านในเวลาเพียงไม่กี่เดือน

"สาเหตุที่เรือดังกล่าวฝ่าฝืนออกเดินเรือในช่วงเวลาที่กำลังจะมีพายุมรสุม ทั้งที่เรือของบริษัทอื่นๆไม่ออกจากท่า เนื่องจากมีการสั่งการจากบุคคลรายหนึ่งในบริษัทให้ออกเดินเรือทั้งที่มีการทัดทานจากผู้ควบคุมเรือและส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของบริษัทแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลจากพยานบุคคล และหาหลักฐาน เพื่อใช้ดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวด้วย"พล.ต.ต.สุรเชษฐ์  กล่าว

ทั้งนี้ รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อความเชื่อมโยงของบริษัทเดินเรือทั้งสองลำที่ประสบเหตุกับบริษัททรานลี่ ทราเวลซึ่งเมื่อช่วงปี 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและปปง.ได้เข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์บริษัทในเครือทรานลี่ เป็นรถบัส 69 คัน จาก 117 คัน เรือสปีดโบ๊ต 32 ลำจาก 35 ลำ มูลค่า 100 ล้านบาท