posttoday

"ทีมหมูป่าคือผู้ประสบภัยธรรมชาติ" รสนาแนะสังคมมองกรณีเด็กติดถ้ำหลวง

04 กรกฎาคม 2561

รสนาแนะชี้ทีมหมูป่าคือผู้ประสบภัยทางธรรมชาติที่ต้องการการช่วยเหลือ แนะเป็นบทเรียนกรมอุทยานฯในการดูแลสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ พร้อมชื่นชมความสามารถของโค้ช-เด็กๆที่ดูแลกันและกัน

รสนาแนะชี้ทีมหมูป่าคือผู้ประสบภัยทางธรรมชาติที่ต้องการการช่วยเหลือ แนะเป็นบทเรียนกรมอุทยานฯในการดูแลสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ พร้อมชื่นชมความสามารถของโค้ช-เด็กๆที่ดูแลกันและกัน

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภาและ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แสดงความเห็นกรณีถึงเหตุการณ์ที่เยาวชนทีมหมูป่าพร้อมผู้ฝึกสอนรวม 13 คนติดในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงรายผ่านเฟซบุ๊ก Rosana Tositrakul ว่า

"ทีมหมูป่าคือผู้ประสบภัยธรรมชาติ"

หลังจากพบทีมหมูป่าแล้วเริ่มมีข้อวิจารณ์ว่าเด็กพวกนี้ควรถูกลงโทษอย่างไรเมื่อกลับมาและรักษาตัวจนหายดีแล้ว มีคำถามว่าเด็กเหล่านี้คือฮีโร่ หรือเด็กซนกันแน่ ที่สมควรถูกพ่อแม่ตีสั่งสอนหรือไม่

ดิฉันเห็นว่า เราน่าจะมองเหตุการณ์นี้ว่าเด็กทีมหมูป่าคือผู้ประสบภัยธรรมชาติไม่ต่างจากคนไปเที่ยวทะเล แล้วจู่ๆก็เกิดสึนามิขึ้นมา หรือคนที่ไปดูหนังในห้างสรรพสินค้าแล้วเกิดไฟไหม้ขึ้นมา

พวกทีมหมูป่าไม่ได้ไปเที่ยวห้าง ดูหนัง ไม่ได้ไปเที่ยวทะเล เหมือนคนอื่นๆ แต่เขาไปเที่ยวถ้ำ แล้วเกิดฝนตกหนักจนน้ำท่วมในถ้ำ ทำให้พวกเขาไม่สามารถออกมาได้พวกเขาเลยกลายเป็น”ผู้ประสบภัยทางธรรมชาติ” ที่ต้องการการช่วยเหลือมากกว่าจะถูกทำโทษในฐานะเด็กซน หรือถูกยกย่องในฐานะฮีโร่

ไม่มีใครโทษคนไปเที่ยวทะเล แล้วบังเอิญเกิดสึนามิ ไม่มีใครโทษคนไปเที่ยวห้าง ดูหนังแล้วเกิดไฟไหม้โรงหนังว่าไปเที่ยวซนฉันใด เราก็ไม่ควรไปโทษว่าเด็กทีมหมูป่าซึ่งนิยมเที่ยวในสถานที่ธรรมชาติ และถ้ำที่เขาคุ้นเคยซึ่งก็ไม่ต่างจากคนอื่นที่นิยมเที่ยวทะเลหรือห้างสรรพสินค้า

ถ้ามีคำโต้แย้งว่า ทำไมต้องไปเที่ยวถ้ำในช่วงมรสุม หากมองด้วยความเป็นธรรม ป้ายหน้าปากถ้ำแจ้งอันตรายว่าไม่ควรเข้าไปในถ้ำช่วงเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน และทีมหมูป่าก็เคยเข้าไปเที่ยวถ้ำหลายครั้งย่อมมีความคุ้นเคย ก็คงไม่คิดว่าจะเกิดอันตราย เพราะช่วงที่เข้าไปยังเป็นวันที่23 มิถุนายน หากพวกเขารู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอันตราย เชื่อว่าทีมหมูป่าจะไม่เข้าไปอย่างแน่นอน

กรณีนี้จะเป็นบทเรียนให้กับกรมอุทยานที่จะมีการดูแลที่เข้มงวดมากขึ้นในช่วงฤดูมรสุม และควรปิดถ้ำถาวรในช่วงนี้เพื่อป้องกันเหตุร้าย

ถ้าสังคมมองจากมุมของเรื่องวิบัติภัยเราจะได้ไม่สุดโต่งไปแง่ของการกล่าวโทษว่าทีมหมูป่าเป็นเด็กซนจนคนเดือดร้อนกันไปทั้งประเทศและต่างประเทศ หรือไปยกย่องกันว่าเด็กคือฮีโร่ที่เกรงว่าจะกลายเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้กับเด็กอื่นๆ

สิ่งที่เราควรมองอย่างเป็นกลางคือทีมหมูป่าทั้ง13ชีวิตคือผู้ประสบวิบัติภัยทางธรรมชาติ ไม่ต่างจากผู้ที่ประสบภัยจากสึนามิ จากน้ำท่วม จากไฟไหม้ หรือจากแผ่นดินไหวที่ต้องได้รับการช่วยเหลือ และต้องชื่นชมความสามารถของทีมกู้ภัย และบรรดาจิตอาสาทั้งหลายที่เข้าไปช่วยเหลือในกิจกรรมต่างๆของเหตุการณ์นี้จนลุล่วงในการช่วยชีวิตคนทั้ง13คน

แต่ในแง่ที่ทีมหมูป่าทั้ง13ชีวิตสามารถดูแลกันและกัน สามารถควบคุมสติ กันจนสามารถมีชีวิตรอดได้10วัน อันนี้สมควรชื่นชมความสามารถของโค้ชและเด็กๆ

ที่มา