posttoday

"สันธนะ"รายงานตัวศาลคดีกรรโชกทรัพย์ผู้ค้าตลาดใหม่ดอนเมืองลั่นสู้เต็มที่

02 กรกฎาคม 2561

"สันธนะ"รายงานตัวศาล หลังครบฝากขังสุดท้ายคดีกรรโชกทรัพย์ผู้ค้าตลาดใหม่ดอนเมือง ลั่นสู้เต็มที่ชั้นศาล ซัดตำรวจเป็นคู่ปรปักษ์

"สันธนะ"รายงานตัวศาล หลังครบฝากขังสุดท้ายคดีกรรโชกทรัพย์ผู้ค้าตลาดใหม่ดอนเมือง ลั่นสู้เต็มที่ชั้นศาล ซัดตำรวจเป็นคู่ปรปักษ์

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. เวลา 09.45 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อายุ 59 ปี อดีตรองผู้กำกับการสันติบาล 2 ในฐานะประธานที่ปรึกษา บริษัท พัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง จำกัด ผู้ต้องหาในคดีกรรโชกทรัพย์ตลาดใหม่ดอนเมือง เดินทางมารายงานตัวต่อศาล หลังครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้าย 4 ผลัด (48 วัน) ตามเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขังของศาล ซึ่งล่าสุดในคดีนี้ พ.ต.ท.สันธนะ และพนักงานตลาดที่ถูกกล่าวหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์กลุ่มผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมืองได้ถูกอัยการยื่นฟ้องต่อศาลอาญาไปเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา

โดยก่อนเข้ารายงานตัว พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงข่าวว่าได้สรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องตนและผู้เกี่ยวข้องในคดีรวม 11 คน อยากจะเรียนให้สังคมทราบว่ากระบวนการสอบสวนเป็นเบื้องต้น ชั้นพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคู่ปรปักษ์กับตนมาโดยตลอด จึงไม่แปลกใจที่พนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความเห็นสั่งฟ้องตน แต่แปลกใจในเรื่องรายละเอียดของคดีตามแถลงข่าว รวมถึงข้อมูลในสำนวนการสอบสวน ปรากฏว่าคดีนี้ผู้เสียหายในคดี 11 คน เป็นกลุ่มผู้ค้าที่ตลาดใหม่ดอนเมือง มีพยาน 9 คน ความเสียหายทั้งสิ้น 770,000 กว่าบาท ในช่วงเวลา 2 ปี มีการกรรโชกทรัพย์ความเสียหายเพียงแค่ 7 แสนกว่าบาท แล้วไม่ทราบพวกตน 10 กว่าคนไปแบ่งกันใช้ยังไง

พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า ตนถึงบอกว่ามันไปไม่ได้แล้ว คุณหาพยานหลักฐานอะไรไม่ได้ ตนก็เสียใจกับผู้เสียหายและเป็นผู้กล่าวหาตนในคดีนี้ทั้ง 11 คน ว่าคุณตกเป็นเหยื่อของกระบวนการยุติธรรมเบื้องต้นที่ไม่ยุติธรรม ส่วนตัวคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนก็น่าจะมีอนาคตเป็นผู้อำนวยความยุติธรรมให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ ดูท่าเหมือนราชสีห์ แต่ถึงเวลาจริงๆ ถูกสัตว์เลื้อยคลานดึงหางไปก็ตามเขา เพียงเพื่อหวังทะเยอทะยานในตำแหน่งสูงสุดขององค์กร ไม่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อประชาชน ตนจะบอกสังคมต่อไปว่ามันมีเหตุที่มาที่ไปอย่างไร ตั้งคณะพนักงานสอบสวน 174 คน สรุปสำนวนได้เท่านี้ อย่างที่ตนบอกมันไม่มีการกระทำผิด ไม่มีเหตุเกิดขึ้นจริง สิ่งที่เขาพยายามยัดเยียดกล่าวหาตนก็ทำไม่ได้ตามเป้า วันนี้ก็สิ้นสุดขอบเขตอำนาจของพนักงานสอบสวนแล้ว

“ผมไม่เคยให้การ คือผมปฏิเสธมาตลอดและไม่ให้การกับพนักงานสอบสวน หรือกระทั่งชั้นอัยการ ในวันนี้ผมเชื่อว่าพนักงานอัยการท่านก็ต้องทำตามหน้าที่ ในเมื่อผมไม่ได้ให้ข้อมูลให้ข้อเท็จจริงรายละเอียดอะไรในสำนวนเลย ท่านก็ต้องมีความเห็นสั่งฟ้องผม ซึ่งผมพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมชั้นศาล ที่ผมนำเรียนมาตลอด และผมจะเร่งรัด จะขอศาลท่านให้ดำเนินการพิจารณาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ปรากฏออกมาให้ชัดเจน แล้วสังคมจะได้รับทราบสิ่งที่ผมพูดมาตลอด”พ.ต.ท.สันธนะ กล่าว

เมื่อถามว่าได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการหรือไม่ พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า ตนไม่ร้อง แต่ผู้ต้องหาอื่นก็แล้วแต่ ทราบว่ามีการไปร้องต่ออัยการสูงสุด ก็เป็นดุลยพินิจของท่านอัยการสูงสุด ตนอยากให้มีคำพิพากษาของศาลออกมา ถ้าตนไปร้องอัยการสูงสุดแล้วท่านมีความเห็นแย้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อในรายละเอียดของตน ก็ต้องใช้เวลาอีกเยอะ กว่าจะส่งสำนวนไปให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พิจารณา แน่นอน ผบ.ตร.ก็คู่กรณีคู่ปรปักษ์กับตน วิธีการมากมายที่จะยื้อคดีไม่ใช่ประสงค์ของตน ตนอยากเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ตกใจกับการเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องยากเย็น เมื่อคดีมีคำพิพากษาออกมาแล้วตนไม่ได้กระทำผิดใครคือคนรับผิดชอบ ตนไม่เป็นไรเปิดหน้าสู้ แต่เอาคนอื่นมาเกี่ยวข้องมาแถลงเหมือนเป็นกระบวนการยุติธรรมขั้นสูงสุดพิพากษาเขาหมด กล่าวหาแบบนั้นแบบนี้เดี๋ยวคุณโดนบ้างเหมือนที่ทำกับพวกเขา

เมื่อถามถึงกรณีที่เคยบอกว่าจะยื่นฟ้องนายพล พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ติดขัดทางคดี เขาไม่มอบเอกสารอะไรให้ตนเลย เมื่อวันศุกร์ตนถึงต้องไปทวงเอง คุณกลัวทำไมในเมื่อเปิดหน้าทุกคนก็ทราบแล้ว เราไม่ใช่คดีปกติ เป็นเรื่องระหว่างพวกคุณกับตน ตนถึงบอกว่าจะชี้ให้สังคมทราบว่ามีเหตุอะไร มีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมตนถึงต้องออกมาล่อเป้า

เมื่อถามว่าทางอัยการมีคำสั่งฟ้องมาอย่างไรได้ดูหรือไม่ พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ท่าน เมื่อตำรวจสรุปสำนวนสั่งฟ้องส่งให้อัยการแล้ว วันนี้หมดอำนาจควบคุมฝากขังของทางอัยการก็สุดแท้แต่ ถ้ายื่นฟ้องไม่ทันก็ต้องปล่อยตัว แต่เชื่อว่าในคดีตนท่านคงยื่นฟ้องได้ทัน เพราะไม่มีในส่วนของตน ตนปฏิเสธไม่ให้การในชั้นอัยการด้วย ก็ไม่มีเหตุอะไรที่ท่านจะไม่ฟ้องตน ซึ่งตนก็น้อมรับในชั้นนี้ ในชั้นศาลตนก็ต่อสู้เต็มที่แน่นอน ตนไม่หนีไปไหนอยู่แล้ว ประเทศนี้น่าอยู่

ต่อมา พ.ต.ท.สันธนะ เปิดเผยหลังการรายงานตัวว่า ในคดีนี้ตนก็จะต้องเดินทางมาศาลอีกครั้งในวันที่ 4 ก.ค.นี้ พร้อมกับพนักงานตลาดที่ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมด้วยอีก 10 คน ตามที่ศาลอาญานัดหลังจากอัยการได้ยื่นฟ้องตนกับพนักงานตลาดรวม 11 คน ไว้แล้ว ซึ่งตนก็จะเดินทางมาตามนัดในเวลา 09.00 น.