posttoday

คุก 16 เดือน “ทนายประเวศ” โพสต์ปลุกระดม ม.116

27 มิถุนายน 2561

พิพากษา จำคุก 16 เดือน “ทนายประเวศ” โพสต์ปลุกระดม ม.116 ยกฟ้องข้อหาหมิ่นเบื้องสูง เจ้าตัวยัน ไม่อุทธรณ์ ยังไม่ยอมรับกระบวนยุติธรรมตั้งแต่สอบสวน

พิพากษา จำคุก 16 เดือน “ทนายประเวศ” โพสต์ปลุกระดม ม.116  ยกฟ้องข้อหาหมิ่นเบื้องสูง เจ้าตัวยัน ไม่อุทธรณ์ ยังไม่ยอมรับกระบวนยุติธรรมตั้งแต่สอบสวน

วันที่ 27 มิ.ย.61 เวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 707 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.2368/2560 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายประเวศ  ประภานุกุล อายุ58 ปี ประกอบวิชาชีพทนายความ เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์  ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 , ฐานกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใดตามรัฐธรรมนูญหรือมิใช่แสดงความคิดเห็นติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 , และผู้ใดทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามหน้าที่มีกฎหมายกำหนดไว้แล้ว ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุฯ มาตรา 368และฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร  พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ตามมาตรา 3 , 14 (3)  และขัดคำสั่งเจ้าพนักงานไม่พิมพ์ลายนิ้วมือ ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ต.ค.59 กับคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 25 ลงวันที่ 29 ก.ย.49 เรื่อง การดำเนินการเกี่ยวกับการยุติธรรมทางอาญาว่า ผู้ซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญา มีหน้าที่ต้องพิมพ์ลายนิ้วมือ ลายมือหรือลายเท้า ตามคำสั่งของพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี หรือพนักงานสอบสวน ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดฐานกระทำความผิดเกี่ยวกับการยุติธรรม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


โดยอัยการยื่นฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างวันที่ 25 ม.ค.– 23 เม.ย.60 จำเลยซึ่งเป็นผู้ใช้งานบัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ “ประเวศ ประภานุกูล” ที่เป็นบัญชีส่วนตัว มีผู้ติดตามจำนวน 2,574 คน และมีเพื่อน 4,769 คน โดยจำเลยนำข้อมูลที่เป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ด้วยการโพสต์ข้อความที่มีลักษณะละเมิดกฎหมาย ซึ่งมิใช่แสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน หรือเป็นการดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. 

ซึ่งในการพิจารณาของศาลชั้นสอบคำให้การจำเลย นายประเวศ จำเลยได้แถลงปฏิเสธ ไม่ขอยอมรับกระบวนการยุติธรรมและไม่ขอตรวจพยานหลักฐานในคดี โดยคดีเริ่มสืบพยานอัยการโจทก์ เมื่อเดือน พ.ค. 61 ที่ผ่านมา ขณะที่ นายประเวศ จำเลยนั้นไม่ได้ประกันตัว นับตั้งแต่ฝากขังครั้งแรกวันที่ 3 พ.ค.60 ตลอดจนชั้นพิจารณาคดีในศาล ซึ่งวันนี้ศาลเบิกตัวนาย ประเวศ จำเลย มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อฟังคำพิพากษา โดยมีญาติ และกลุ่มคนใกล้ชิด นำดอกกุหลาบแดงมาร่วมให้กำลังใจด้วยกว่า 10 คน และมีกลุ่มสื่อเพื่อสังคมมาสังเกตการณ์ด้วย

กระทั่งเวลา 09.30 น. ศาลได้อ่านคำพิพากษา ซึ่งชั้นพิจารณาจำเลยแถลงปฏิเสธไม่ขอยอมรับกระบวนการยุติธรรม และไม่ได้สืบพยาน ถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธ โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานอื่นฝ่ายโจทก์ตามทางนำสืบแล้ว เห็นว่า จำเลยได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ทำนองว่าสนับสนุนทั้งคนเสื้อเหลือง-เสื้อแดง โค่นล้มอำนาจเผด็จการ พร้อมเรียกร้องระบบสาธารณรัฐหรือสหพันธรัฐซึ่งพูดได้เต็มที่ เชื่อผม ผมเป็นทนาย ฯลฯ อันเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116(3) , 368 , พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ ม.14(3) , ประกาศ คปค.ฉบับที่ 25

จึงพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษ ซึ่งความผิดต่อความมมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักรเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116(3) ที่เป็นบทหนักสุด จำคุกรวม 3 กระทงๆละ 5 เดือน รวม 15 เดือน

และฐานฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานฝ่าฝืน ประกาศ คปค.ฉบับที่ 25 ที่เป็นบทหนักสุด ให้จำคุก 1 เดือน รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้นเป็นเวลา 16 เดือน ส่วนข้อหาตาม ม.112 และข้อหาอื่นให้ยก

ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว “นายประเวศ” และญาติต่างแสดงความยินดีต่อกัน ขณะที่นายประเวศ ยืนยันว่าจะไม่ยื่นอุทธรณ์คดี โดยระบุว่าที่ผ่านมาตนก็แสดงออกว่าไม่ยอมรับกระบวนยุติธรรมทั้งหมดตั้งแต่ชั้นจับกุม สอบสวน

ด้าน น.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เปิดเผยว่า คดีนี้อัยการยื่นฟ้องข้อกล่าวหา ม.112 ประมาณ 10 กรรม และความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง ม.116 รวม 3 กรรม ซึ่งศาลก็ได้พิพากษายกฟ้องใน ม.112 คงลงโทษเฉพาะ ม.116 , พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ และการฝ่าฝืนคำสั่ง คปค. โดยนายประเวศ ระบุจะไม่อุทธรณ์คดี แต่ทั้งนี้ตามกระบวนการอัยการโจทก์ ยังใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คดีได้อีกภายใน 1 เดือนหรือขอขยายเวลาหากยื่นไม่ทัน ขณะที่ส่วนของ นายประเวศ นั้น ได้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำตั้งแต่ชั้นฝากขังมาแล้วประมาณ 13-14 เดือน ดังนั้นเหลือเวลาจะถูกคุมขังอีกประมาณ 2 เดือน ก็จะได้รับการปล่อยตัว