posttoday

เปิดกรุหลวงปู่ทวด 'รองเดียร์' พ.ต.ท.ภูริส

24 มิถุนายน 2561

ชวนชมพระเครื่องของ ‘รองเดียร์’ พ.ต.ท.ภูริส จินตรานันท์ รองผกก.ป.สน.บางรัก ดีกรีหัวกะทินักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 52

ชวนชมพระเครื่องของ ‘รองเดียร์’ พ.ต.ท.ภูริส จินตรานันท์ รองผกก.ป.สน.บางรัก ดีกรีหัวกะทินักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 52

----------------------------------------------------

เรื่อง...เอกชัย จั่นทอง ภาพ....ทวีชัย ธวัชปกรณ์

ได้ย่างกรายย่ำถิ่นเขตบางรัก เลยไม่พลาดทักทายสวัสดีแหล่งข่าวชั้นดี สัปดาห์นี้เลยชวนชมพระเครื่องของ ‘รองเดียร์’ พ.ต.ท.ภูริส จินตรานันท์ รองผกก.ป.สน.บางรัก ดีกรีหัวกะทินักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 52 ชีวิตเติบโตจากเขม่าควันปืนคลุกคลีงานสืบสวนมานาน 10 กว่าปี ประสบการณ์ชีวิตมีตำนานเล่าขานสารพัด มีเพื่อนซี้ร่วมรุ่นยอดนักสืบหลายคน อย่าง พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.อ.ศาสตรา อ่อนรัศมี ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.กก.5 บก.ป. พ.ต.อ.สุวัฒน์ เกิดแก้ว ผกก.สส.บก.น.6 ฯลฯ

ย้อนชีวิตราชการตำรวจ พ.ต.ท.ภูริส รับราชการครั้งแรก ปี 2542 ตำแหน่งพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ปี 2545แววนักสืบเริ่มชัดเป็น รองสว.สส.สน.ทองหล่อ ปี 2549 รองสว.กก.1 บก.ป. ปี 2550 เป็น สว.ทท.เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ ปี 2552 โยกเป็น สว.กก.1 บก.ป. ปี 2554 เป็น สว.สส.กก.4 บก.สส.บช.น ถัดมาปี 2557 ขึ้นรองผกก.กต.3 จต. ปี 2558 โยกเป็น รองผกก.สส.บก.น.5 ปี 2560 โยกเป็น รองผกก.ป.สน.บางรัก จนถึงปัจจุบัน

แบ็คกราวด์ชีวิต พ.ต.ท.ภูริส ปรากฏชัดผ่านสมรภูมิงานสืบสวนมายาวนาน ไม่ง่ายเลยที่ชีวิตตำรวจคนหนึ่งจะเติบโตในไลน์สืบสวนมาตลอด ถ้าทักษะประสบการณ์ความรู้ไม่ชำชองพอ เส้นทางนี้คงไม่เหมาะสมกับนายตำรวจคนนี้อย่างแน่นอน ที่สำคัญ ‘รองเดียร์’ ยอมเผยความลับในใจถึงที่มาการเป็นตำรวจว่า “คุณพ่อต้องการให้ลูกรับราชการตำรวจ” สุดท้ายนายตำรวจคนนี้ไม่ทำให้ครอบครัวผิดหวัง คว้าดาวเงินขึ้นประดับบ่าอย่างสง่างาม

ไม่ให้เสียเวลา เปิดอกคุยถึงพระเครื่องที่หวงและรักที่สุด พ.ต.ท.ภูริส หยิบกล่องสแตนเลสขนาดพอมือ บิดเปิดอย่างใจเย็นภายในมีพระเหลี่ยมทอง 3 องค์ 1.เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ เนื้อทองแดงรมดำ ปี 2508 วัดช้างให้ จ.ปัตตานี 2.เหรียญหลวงปู่ทวด พิมพ์หัวโต รุ่น 1 ปี 2500 เนื้อทองแดงกะไหล่เงิน วัดช้างให้ จ.ปัตตานี และ 3.เหรียญหลวงปู่ทวดพุฒซ้อนใหญ่ เนื้อกะไหล่ทอง ปี 2509 วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ส่วนราคาพระไม่ขอเปิดเผย แต่ทุกวันต้องแขวนหลวงปู่ทวดติดตัวอย่างน้อย 1 องค์ ออกไปทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

เปิดกรุหลวงปู่ทวด 'รองเดียร์' พ.ต.ท.ภูริส

“ส่วนตัวยึดหลักพระพุทธศาสนา เรื่องการคิดทำดี กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ระลึกถึงเสมอก่อนลงมือปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดปัญญาสมาธิ เวลาเจออุปสรรคจะนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่าท่านจะคุ้มครอง ทุกสิ่งยึดโยงจากหลักธรรมการทำดี พระไม่ได้ทำให้เราเป็นคนดีแต่จะค่อยเตือนสติอย่าประมาท ถ้าทำไม่ดีพระก็ไม่อยู่กับเรา” พ.ต.ท.ภูริส เล่าแนวคิดส่วนตัว

ใช่ว่ามีพระดีแล้วงานจะประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะ พ.ต.ท.ภูริส ถอดเคล็ดลับทำงานให้ฟังว่า สิ่งที่ยึดปฏิบัติเสมอคือการทำงานที่ให้ใจกับผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะการปกครองคนจำนวนมากต้องมีหลักการทำงานที่ว่า “เข้าถึง เข้าใจ พัฒนา” ทำงานไม่ต้องอธิบายมาก แต่ลงไปปฏิบัติเคียงข้างลูกน้อง ไม่ว่าตำแหน่งสูงแค่ไหน ยังยืนหยัดที่จะลงไปปฏิบัติงานภาคสนามเช่นเดิม อย่างน้อยเราเข้าถึงพื้นที่ ลูกน้องมีกำลังใจทำงาน กำกับติดตามได้ง่าย ยอมเหนื่อยกว่านั่นเป็นหลักทำงานที่สำคัญของเรา

“วันนี้ถ้าเราไปจับประชาชนที่ทำผิด แต่วินัยตัวเรายังไม่ดีเราก็จับเข้าไม่ได้ เรายังสกปรกอยู่แต่งตัวไม่เรียบร้อยไม่สวมหมวกกันน็อค แต่ไปจับประชาชนไม่สวมหมวกกันน็อคก็ไม่ได้ เราต้องประพฤติตัวเป็นกระจกสะท้อนให้ประชาชนเห็นก่อน” รองเดียร์ เล่าวิธีทำงาน

เปิดกรุหลวงปู่ทวด 'รองเดียร์' พ.ต.ท.ภูริส

แน่นอนไม่มีสิ่งใดได้มาง่ายดาย แต่นายตำรวจคนนี้ใช้หัวใจทำงาน มองทุกอย่างเราต้องเสียสละก่อน สร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติ "ผมยอมเหนื่อยกว่าหนึ่งก้าว ให้งานสัมฤทธิ์ผลถือว่าคุ้มค่าแล้ว"

พ.ต.ท.ภูริส เล่าปิดท้ายว่า การเป็นตำรวจได้ทำความดีทุกวัน ได้ดูแลช่วยเหลือประชาชนด้วยใจบริสุทธิ์ ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้เป็นคนดีประพฤติดี เชื่อว่าทุกอย่างจะส่งเสริมให้การทำงานเจริญก้าวหน้าสำเร็จตามเป้าหมาย และคิดไม่ผิดที่เลือกอาชีพตำรวจ

เปิดกรุหลวงปู่ทวด 'รองเดียร์' พ.ต.ท.ภูริส