posttoday

ชะลอขยะพิษแสนตัน รมว.ทรัพย์ฯเล็งใช้ม.44 ภาคปชช.จี้เลิกคำสั่งคสช.ปิดทางโรงงาน

22 มิถุนายน 2561

เครือข่าย ปชช.ร้องนายกฯ เลิกคำสั่ง คสช.เพื่อปิดทางตั้งโรงงานขยะพิษ ชี้ไทยเป็นแหล่งรับขยะจากทั่วโลก

เครือข่าย ปชช.ร้องนายกฯ เลิกคำสั่ง คสช.เพื่อปิดทางตั้งโรงงานขยะพิษ ชี้ไทยเป็นแหล่งรับขยะจากทั่วโลก

พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จะหารือกับตำรวจในการชะลอนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์กว่าแสนตันที่จะเข้ามาในประเทศไทยก่อน โดยเฉพาะถ้ามีการสำแดงเท็จก็จะเป็นภัยต่อประชาชน หากกฎกระทรวงที่มีอยู่ไม่ลงตัว ก็อาจใช้คำสั่งมาตรา 44 เข้ามาจัดการ

นางเพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ แถลงว่า ปัจจุบันไทยกลายเป็นแหล่งรับขยะจากหลายประเทศทั่วโลก ด้วยผลของความตกลงการค้าเสรีที่ไทยไปทำไว้กับหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น จีน ออสเตรเลีย

ทั้งนี้ ในอดีตขยะจากประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่จะถูกส่งไปที่ประเทศจีน เช่น อังกฤษ เคยส่งไปถึง 2.7 ล้านตัน ระหว่างปี 2555-2560 เช่นเดียวกับขยะพลาสติกคัดแยกจากกลุ่มสหภาพยุโรป ถูกส่งไปจีนถึง 85% จนเมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลจีนออกกฎหมายห้ามนำเข้าขยะ 4 ประเภท คือ 1.ขยะพลาสติก 2.ตระกรันวาเนเดียม 3.ขยะกระดาษที่ไม่จัดประเภท และ 4.ขยะสิ่งทอบางชนิด เส้นทางของขยะจึงเปลี่ยนจากจีนมายังไทย แม้แต่ประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศก็ส่งขยะมาที่ไทย จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า ประเทศไทยจะเป็นถังขยะให้นานาชาติใช่ไหม

ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ เสนอว่า ทางแก้คือ 1.ต้องยกเลิกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 4/2559 เรื่อง การยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสำหรับการ ประกอบกิจการบางประเภท เนื่องจาก พบว่าในปี 2560 มีโรงงานกำจัดขยะประเภท 105 และ 106 เพิ่มสูงขึ้นกว่าปี 2559 อย่างมาก เพราะคำสั่งดังกล่าวทำให้ตั้งโรงงานได้ง่ายขึ้น

2.ออกประกาศห้ามนำเข้าขยะ 4 ประเภท เช่นเดียวกับที่รัฐบาลจีนทำ 3.ตรวจสอบความถูกต้องเหมาะสมของโรงงานกำจัดของเสียประเภท 105 และ 106 ทั่วประเทศ เมื่อภาครัฐมีมาตรการคุมเข้มมีการตรวจสอบ เชื่อว่าผู้ประกอบการจีนไม่น้อยน่าจะย้ายมาลงทุนในประเทศไทย

ภาพประกอบข่าว