ปปง.ยึดทรัพย์แก๊งฟอกเงินข้ามชาติกว่า 100 ล้านบาท-อายัด 4.4 ล.สาวแอบอ้างเบื้องสูง

มติ ปปง.ยึดทรัพย์ขบวนการฟอกเงินข้ามชาติกว่า 100 ล้านบาท–แก๊งแอบอ้างเบื้องสูงฉ้อโกงกลุ่มเกษตรกรจ.ยะลาโดนยึดอายัดกว่า 4.4 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รองเลขาธิการปปง.เปิดเผยผลการคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 11/2561 ว่า คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สิน ในคดีที่สำคัญ 2 คดี คือ 1.ยึดและอายัดทรัพย์สิน ท้าวสุบัน เตียสิริ กับพวก จำนวน 1 รายการรวมมูลค่ากว่า 98,000,000 บาท  คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก ปปง.ได้รับรายงานจากด่านศุลกากรหนองคายถึงการจับกุมการลักลอบนำเงินตราออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยจะขนผ่านสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 1 ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (7) พ.ร.บป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีมติให้ยึดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90วัน จำนวน 1 รายการ คือ เงินสด มูลค่ากว่า 98,000,000 บาท  อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 9/2561 เมื่อวันที่ 8พ.ค. 61คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติให้ยึดทรัพย์สินขบวนการลักลอบขนเงินข้ามแดนมาแล้ว จำนวน 3 ราย ได้แก่นายมาซาโตะ คิคุชิ นายลอบซัง โซดา และราย MR.MSAFIRI JUSTIN โดยอายัดทรัพย์สินมูลค่า 9,500,000 บาท

พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับคดีที่ 2คณะกรรมการธุรกรรมมีมติอายัดทรัพย์ นางสาวชลดา หรือสมัญญา วัฒโน กับพวกยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 6 รายการ  รวมมูลค่ากว่า 4,433,000บาทไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน ทั้งนี้คดีดังกล่าวปปง.ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า ระหว่างปลายปี 2551 ถึงประมาณกลางปี 2556นางสาวชลดากับพวก ได้ร่วมกันหลอกลวง นายภูชิดย์  แซ่ซั้นอดีตประธานกลุ่มเกษตรกรทำสวนธารน้ำทิพย์ ตั้งอยู่อำเภอเบตง จังหวัดยะลาโดยอ้างว่า นางสาวชลดาเป็นหลานสาวพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯมีทรัพย์มรดกเป็นจำนวนมากซึ่งอยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีทั้งในและต่างประเทศจึงต้องการผู้สนับสนุนทางการเงินเพื่อใช้ในการดำเนินคดีและเมื่อคดีเสร็จสิ้นแล้วจะมอบเงินและที่ดินทางภาคเหนือให้เป็นค่าตอบแทนแก่ผู้สนับสนุนทางการเงินเป็นจำนวนหลายเท่าตัวและจะมอบที่ดินอีกจำนวนประมาณ 1,000 ไร่ ให้สำหรับทำสวนยางพาราทำให้กลุ่มเกษตรกรทำสวนธารน้ำทิพย์ หลงเชื่อได้รับความเสียหายทั้งสิ้น9,470,000 บาท ระหว่างนั้นผู้เสียหายสืบทราบว่านางสาวชลดาถูกจับกุมในความผิดมาตรา 112 และความผิดฐานฉ้อโกงซึ่งศาลอาญาพิพากษาจำคุก 30 ปีผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีนี้กับนางสาวชลดากับพวก