posttoday

สาวถูกทีมยึดรถตามทวงเตรียมฟ้องกลับฐานพยายามชิงทรัพย์

17 มิถุนายน 2561

เปิดใจสาวขับรถเก๋งถูกกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ายึดรถ จนเกิดเหตุรถไปทับเจ็บ เจ้าตัวแจงอีกฝ่ายไม่แสดงตนและไม่มีหมายศาลพร้อมเตรียมฟ้องกลับ

เปิดใจสาวขับรถเก๋งถูกกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ายึดรถ จนเกิดเหตุรถไปทับเจ็บ เจ้าตัวแจงอีกฝ่ายไม่แสดงตนและไม่มีหมายศาลพร้อมเตรียมฟ้องกลับ

จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอในโซเชียลมีเดียเป็น เหตุการณ์ที่กลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4 คนเข้าล้อมรถของผู้หญิงวัย 41ปีก่อนจะพยามสั่งให้หยุดรถเพื่อจะยึดรถตามที่ได้รับมอบหมายมา เนื่องจากฝ่ายหญิงค้างค่างวดต่อไฟแนนซ์ โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความ #ขับรถทับ_ทีมยึดรถ ซึ่งเหตุการณ์ในคลิปมีหนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ถูกรถที่ขับโดยฝ่ายหญิงทับ หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกโพสต์ออกมาไม่นานก็มีการแชร์คลิปและแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบผู้เสียหายหญิงวัย 41 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถวันเกิดเหตุอีกครั้ง โดยหญิงสาวรายนี้ ได้เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่ตนกำลังจะขับรถไปรับลูกชายที่โรงเรียน ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ใส่สูทสีดำประมาณ 4คน ได้เข้ามาล้อมรถ พร้อมบอกว่ามาจากไฟแนนซ์จะมายึดรถ โดยที่ไม่มีการแสดงตน หรือบัตรพนักงานและเอกสารคำสั่งศาลให้ยึดทรัพย์ว่าจะมายึดรถแต่อย่างใด

ทั้งนี้รถคันดังกล่าวเรื่องถึงศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แล้ว และศาลอยู่ระหว่างนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 23 ก.ค.ที่จะถึงนี้ และตนก็ไม่แน่ใจด้วยว่ากลุ่มชายดังกล่าวเป็นใครมาจากไหนและจะเอารถไปอย่างใด อีกทั้งตนก็พยามอธิบายว่ากำลังจะไปรับบุตรคนโต และยังมีบุตรคนเล็กนั่งในรถด้วยเช่นกัน หากไม่เชื่อก็ให้ขึ้นรถมากับตนไปรับลูกตนก่อน แล้วค่อยกลับมาคุยกันอีกครั้ง

แต่กลุ่มชายดังกล่าวไม่ยอมและมีการเข้ามาทุบกระจกรถตนตกใจกลัวจึงพยายามเลี้ยวกลับรถเพื่อออกจากจุดดังกล่าวเนื่องจากหวั่นเรื่องความปลอดภัยและจังหวะที่ตนเองเลี้ยวรถนั้นยืนยันว่า ไม่เห็นว่ามีหนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ล้มลงจึงถูกล้อรถตนเหยียบที่ตัว ยันยันว่าไม่มีเจตนา หลังเกิดเหตุตนได้รีบแจ้ง 191 และนำเอาหมอนออกมารองศีรษะให้ชายที่บาดเจ็บเพื่อรอเจ้าหน้าที่กู้ชีพมาช่วยเหลือ แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมา กลุ่มชายดังกล่าวได้มีการโทรศัพท์เรียกพวกอีกเกือบ 20คน และเข้ามาล้อมตน พร้อมขู่ว่าจะดำเนินคดีข้อหาพยามฆ่าและยังต้องยึดรถกลับไปให้ได้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี เดินทางมาถึงกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดจึงกระจายกันไปยืนรอบนอก

"ยอมรับว่าค้างค่างวดจริงประมาณ 5 งวด ซึ่งรถคันนี้ซื้อมือสองมาในราคาประมาณ 2 แสนกว่า และผ่อนมาได้ประมาณ 1 ปี มาในช่วงหลัง ตนมีปัญหาในครอบครัวสามีก็แยกทาง ตนยึดอาชีพขายอาหารตามสั่งเพื่อเลี้ยงลูกสองคน และภาระทุกอย่างตกที่ตนคนเดียว ทำให้รายรับไม่พอกับรายจ่าย และไม่พอส่งค่างวดรถติดค้างอยู่หลายงวดและถูกเรียกเก็บค่าติดตามทวงถามและอื่นๆรวมเงินเพิ่มอีกกว่าหมื่นบาท จนมีการนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการศาล ก็ยอมที่จะเข้าสู่ขบวนการศาลเพื่อขอไกล่เกลี่ย ซึ่งศาลได้มีหมายเรียกรับหมายนัดไปแล้ว ซึ่งตนก็ไปรายงานตัวต่อศาลมาแล้วเช่นกัน"หญิงเจ้าของรถกล่าว

สาวถูกทีมยึดรถตามทวงเตรียมฟ้องกลับฐานพยายามชิงทรัพย์

หญิงเจ้าของรถกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยได้รับเอกสารอื่นใดจากทางไฟแนนซ์เลย นอกจากใบเรียกเก็บค่างวด การที่มีตัวแทนของไฟแนนซ์มาอ้างตัวจะมายึดรถนั้น ตนก็ไม่มั่นใจว่าใช่หรือไม่ จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น สุดท้ายหากศาลมีคำสั่งยึดรถขายทอดตลาด ตนก็พร้อมให้ความร่วมมือแต่การออกมากระทำเช่นนี้กับผู้หญิงและเด็ก 4 ขวบเช่นนี้ตนมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

หลังเกิดเหตุและมีการเผยแพร่คลิปจนทำให้ตนเสียหายและถูกสังคมตราบหน้าเช่นนี้ ก็รับไม่ได้เช่นกัน อีกทั้งยังถูกขู่จะดำเนินคดีในข้อหาพยามฆ่า ซึ่งถือว่าในความโชคร้าย แต่ก็ยังพอมีหวังเมื่อมีทนายอาสาในพื้นที่ ติดต่อให้คำปรึกษา หลังจากเห็นคลิปในสื่อต่างๆ โดยเตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเดินทางเข้าร้องทุกข์แจ้งความดำเนินคดีกลับ ตามที่ทนายให้คำปรึกษาไว้ในข้อหา ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือ จำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้ กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น และ ร่วมกันพยายามชิงทรัพย์ของผู้อื่น โดยมีผู้กระทำความผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป ซึ่งอาจรวมไปถึงความผิด ความผิด พ.ร.บ. ทวงหนี้ และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ด้วยเช่นกัน

สาวถูกทีมยึดรถตามทวงเตรียมฟ้องกลับฐานพยายามชิงทรัพย์