พิพิธภัณฑ์เด็ก กรุงเทพมหานคร แหล่งเรียนรู้ของเด็กๆ ชาวกรุง

โดย ภาดนุ 

แหล่งเรียนรู้ของเด็กๆ ชาวกรุงเทพฯ มีไม่มากนัก แต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีซะเลย และหนึ่งในนั้นก็คือ “พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร” แห่งที่ 1 ซึ่งเปิดมาตั้งแต่ปี 2544 และได้รับการปิดปรับปรุงบางส่วนเพิ่มเติมอยู่เป็นระยะ แต่ปัจจุบันนี้ได้เปิดรอต้อนรับเด็กๆ ชาวกรุงให้มาเรียนรู้ได้เกือบทุกวัน

เมื่อก้าวเข้ามาส่วนแรกของพิพิธภัณฑ์ฯ จะพบกับลานนิทรรศการภายนอก ซึ่งมีส่วนของสนามเด็กเล่น และวอเตอร์ เพลย์ (Water Play) ถัดมาอีกนิดจะเป็นตัวอาคารทอตะวัน ซึ่งเป็นอาคารที่จัดแสดงนิทรรศการตามความเหมาะสมของเด็กๆ ในช่วงวัย 7-12 ปี ที่ถือว่าเป็นช่วงวัยแห่งการเรียนรู้เลยก็ว่าได้

ที่นี่เด็กๆ จะได้ฝึกกระบวนการด้านความคิดได้อย่างสร้างสรรค์และเสรี โดยอาคารทอตะวันแห่งนี้มีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน

ชั้นที่ 1 ประกอบด้วย ลานสร้างสรรค์ (Creative Space) เป็นเวทีแสดงผลงานต่างๆ ของเด็กๆ ที่ไม่จำกัดรูปแบบ ผลงานเหล่านี้มาจากความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาเอง ซึ่งโซนนี้จะช่วยสร้างความกล้า สร้างแรงบันดาลใจ และความภาคภูมิใจให้กับเด็กๆ

โซนวิทยาศาสตร์สร้างสรรค์ (Creative Science) มาร่วมเรียนรู้ ค้นคว้า ทดลอง เพื่อต่อยอดความคิดและหาคำตอบในเชิงวิทยาศาสตร์ พร้อมกิจกรรมการทดลองที่สร้างความรู้ ความเพลิดเพลินและความสนุกสนานให้กับเด็กๆ ไปพร้อมกัน

โซนครัวไทยวัยจิ๋ว (Junior Thai Kitchen) เด็กๆ สามารถเรียนรู้กิจกรรมการปรุงอาหาร เสริมทักษะกระบวนการคิด โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอธิบายขั้นตอน อุปกรณ์ และวัตถุดิบในการทำอาหาร พร้อมแนะนำความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเมนูอาหาร ลักษณะของอาหารไทย และคุณค่าทางโภชนาการ

โซนนักสืบไดโนเสาร์ (Dino Detective) ห้องสำหรับขุดหาจินตนาการใต้ผืนดินนับล้านปี ที่จะพาเด็กๆ ย้อนกลับไปสู่ยุคดึกดำบรรพ์ เพื่อเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เรียนรู้ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำจุดที่น่าสนใจหลายอย่างเกี่ยวกับไดโนเสาร์ให้ด้วย

สำหรับบริเวณชั้น 2 เริ่มจากโซนโลกทั้งผองพี่น้องกัน (Our Friends) โซนนี้เหมาะที่จะเรียนรู้ความแตกต่าง สร้างทัศนคติเชิงบวก เปิดโลกทัศน์ใหม่ด้วยการเรียนรู้วัฒนธรรมอันหลากหลาย ทั้งในประเทศไทย ประเทศเพื่อนบ้าน และรอบโลก

โซนอัศจรรย์ตัวฉันเอง (Incredible Me) เสริมสร้างการเรียนรู้เกี่ยวกับร่างกาย ความมหัศจรรย์ของร่างกาย กระบวนการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงสภาวะทางอารมณ์ การปรับตัวในสังคมอีกด้วย

โซนมุมมองพิศวง (Amazing Vision) เป็นการเปิดมิติมุมมองอันหลากหลาย สร้างความแปลกใหม่ให้กับเด็กๆ กระตุ้นให้เกิดความสงสัยในการมองเห็น รู้จักสังเกต และสนุกไปกับภาพลวงตาในห้องกระจกมหัศจรรย์

โซนสโมสรนักประดิษฐ์ (Inventor’s Club) ถือเป็นห้องที่ช่วยกระตุ้นให้เด็กๆ ได้ฝึกฝนความคิดสร้างสรรค์ พร้อมกับเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของการประดิษฐ์ อีกทั้งยังมีกิจกรรมให้ร่วมเล่น คือการสร้างสิ่งประดิษฐ์ด้วยตัวเองอีกด้วย

ส่วนที่ชั้น 3 จะมีละครโรงเล็ก (Kid’s Playhouse) สำหรับสร้างจินตนาการผ่านบทบาทสมมติ เป็นเวทีที่จะทำให้เด็กๆ รวมกลุ่มช่วยกันคิดรูปแบบการแสดง แบ่งบทบาทหน้าที่ จากนั้นจึงเปิดการแสดงโดยมีผู้ชมเป็นผู้ปกครองของเด็กๆ คอยนั่งชม

โซนสร้างเมืองของเรา (Build Our City) เป็นพื้นที่ให้เด็กๆ ได้สร้างเมืองจำลองที่น่าอยู่ตามจินตนาการของพวกเขา พร้อมสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิต ช่วยส่งเสริมการคิดอย่างเป็นระบบ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอธิบายองค์ประกอบที่ดีของเมืองควบคู่ไปด้วย

โซนสิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์ (Wonder Building) ช่วยฝึกฝนความคิดสร้างสรรค์ในงานสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้สร้างสรรค์สิ่งก่อสร้างตามจินตนาการให้กลายเป็นจริง โดยใช้หลักคณิตศาสตร์และตรรกศาสตร์เข้ามาช่วย

มาที่อาคารสายรุ้ง เมืองแห่งจินตนาการบ้าง ส่วนแรกที่ชั้น 1 โซนสวนหลังบ้าน (Big Backyard) ภายในประกอบด้วยสภาพแวดล้อมจำลอง ที่จะช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสของเด็กๆ ได้ดี เช่น สิ่งมีชีวิตที่ซ่อนอยู่ตามต้นไม้ การฟังเสียง การสัมผัส พร้อมฉากหลังที่เป็นธรรมชาติที่มีสีสันงดงาม

โซนห้องสมุดสร้างสรรค์ (Creative Library) ที่นี่เป็นคลังความรู้ สู่การต่อยอดสิ่งใหม่ๆ ช่วยให้เด็กๆ มีนิสัยรักการอ่าน พร้อมกิจกรรมให้พวกเขาเล่าเรื่องหนังสือที่ตัวเองอ่านให้กับเพื่อนๆ ฟัง

ที่ชั้น 2 เมืองสายรุ้ง (Rainbow Town) อาณาจักรที่จะพาเด็กๆ ไปสู่โลกแห่งจินตนาการ เติมเต็มความฝัน และความสนุกตื่นเต้น ด้วยการสวมบทบาทในอาชีพต่างๆ ในเมืองจำลอง โซนนี้ช่วยส่งเสริมให้เด็กๆ กล้าแสดงออก โดยมีหลายอาชีพตามความชอบให้เลือก เช่น ตำรวจ นักดับเพลิง ช่างเสริมสวย นักบิน ผู้ประกาศข่าว ฯลฯ เราเชื่อว่าเด็กๆ จะต้องชื่นชอบโซนนี้แน่นอน

พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร อยู่ด้านหลังสวนสาธารณะจตุจักร (อยู่ระหว่างตลาดนัดจตุจักรและสวนวชิรเบญจทัศ) ถนนกำแพงเพชร ถ้ามาด้วย BTS ลงที่สถานีหมอชิต ถ้ามาด้วย MRT ให้ลงที่สถานีจตุจักร

พิพิธภัณฑ์ฯ เปิดบริการวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่ 10.00-16.00 น. สามารถเข้าชมได้ฟรี (ผู้ใหญ่ต้องแสดงบัตรประชาชนทุกครั้ง) โทร. 02-272-4500 หรือ www.cdm-bangkok.com/