posttoday

"พระครู"บุกร้องกองปราบฯดำเนินคดีผอ.สำนักพุทธ อ้างไม่มีหน้าที่สอบโกงเงินทอนวัด

13 มิถุนายน 2561

"พระลูกวัดโพธิ์ทะเล"โผล่ร้องกองปราบฯให้ดำเนินคดี ผอ.สำนักพุทธฯ อ้างไม่มีหน้าที่ตรวจสอบโกงเงินทอนวัด โอดพระต้องใช้เงินดำรงชีวิต

"พระลูกวัดโพธิ์ทะเล"โผล่ร้องกองปราบฯให้ดำเนินคดี ผอ.สำนักพุทธฯ อ้างไม่มีหน้าที่ตรวจสอบโกงเงินทอนวัด โอดพระต้องใช้เงินดำรงชีวิต

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. นายวรากร พงศ์ธนากุล ประธานเครือข่ายทนายและประชาชนปกป้องพระพุทธศาสนา พร้อมด้วยพระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตธมโม ประธานสงฆ์สำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตี 2600 ปี และเป็นพระลูกวัดโพธิ์ทะเล จ.พิจิตร เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบก.ป. เพื่อยื่นหนังสือร้องขอให้ทางกองปราบฯมีการดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีการทุจริตเงินทอนวัด ในความผิดฐานตามมาตรา 157 "ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

นายวรากร กล่าวว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ทาง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ให้เอาผิดกับพระสงฆ์ในคดีเงินทอนวัดจนมีการจับกุมพระสงฆ์จำนวนหลายรูป แต่กลับไม่มีการดำเนินคดีเอาผิดกับเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ที่ผ่านมายังคงมีข้าราชการของสำนักพุทธฯที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัด แต่ยังไม่ถูกดำเนินคดีหลายราย ตนเองจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ตำรวจกองปราบปราม สืบสวนขยายผลและดำเนินคดีให้ครบทุกคนที่เกี่ยวข้อง

นายวรากร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนยังอยากให้มีการดำเนินคดีกับพ.ต.ท.พงศ์พร ตามความผิดตามมาตรา157ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากกรณีที่มีการออกหนังสือคำสั่งที่0001/06036 ฉบับลงวันที่ 8 มิถุนายน 2561 ที่มีการขอให้ทำการตรวจสอบบัญชีวัด และชี้แจงการใช้จ่ายเงิน ซึ่งทางตนและประชาชนคนอื่นๆนั้นไม่เห็นด้วย เพราะถือว่า สำนักงานพระพุทธศาสนา เป็นเพียงผู้สนับสนุนพระ ไม่ใช้ผู้ปกครองพระ และการกระทำแบบนี้ จึงเป็นการกระทำเกินหน้าที่ ส่วนการห้ามพระสงฆ์ถือครองเงิน ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาอ้างว่า ต้องเป็นไปตามพระธรรมวินัยนั้น มองว่า ควรเป็นอำนาจของมหาเถรสมาคมเป็นผู้ดำเนินการ

ด้านพระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา กล่าวว่า พระเองก็มีความจำเป็นในการใช้เงินในการดำรงชีวิต เหมือนกับคนทั่วไป เพราะพระเองก็ต้องใช้เงินเพื่อใช้จ่ายในการเดินทาง ใช้จ่ายในเรื่องการเรียนการสอน เพราะเป็นกฎกติกาของสังคมในปัจจุบัน ส่วนการถือครองเงินควรเป็นรูปแบบบัญชีของวัดหรือไม่นั้น มองว่า วัดแต่ละแห่งมีรูปแบบการจัดการระบบเงินแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับแต่ละวัดจะนำมาใช้จ่ายแบบใด อีกทั้งพระสงฆ์บางรูปมีทรัพย์สินบางส่วนติดตัวมาตั้งแต่ก่อนบวช ในรูปแบบของมรดก จึงอยากให้แยกบัญชี เพราะพระบางรูป ช่วงเวลาการบวชแตกต่างกัน เมื่อสึกออกไป จึงมีความจำเป็นที่จะต้องนำเงินดังกล่าวออกไปใช้

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา พร้อมกับทำการสอบปากคำรายละเอียดของเรื่องดังกล่าว ก่อนจะรวบรวมเรื่องทั้งหมดส่งให้กับทางผู้บังคับบัญชาเป็นผู้พิจารณาดำเนินการสั่งการต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยปีนเสาส่งสัญญาณวิทยุย่านพุทธมณฑลสาย 3 เพื่อประท้วงกรณีที่ดินของสำนักสงฆ์ฯถูกยึด เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา