posttoday

จับสาวแสบหลอกขายประกัน เหยื่อหลงเชื่ออื้อเสียหายกว่า50ล้าน

05 มิถุนายน 2561

ตำรวจนครบาลจับสาวแสบเปิดบริษัทโทรหลอกขายประกันเหยื่อ มีผู้หลงเชื่อโอนเงินให้กว่า 200 ราย มูลค่าความเสียหาย 50 ล้านบาท

ตำรวจนครบาลจับสาวแสบเปิดบริษัทโทรหลอกขายประกันเหยื่อ มีผู้หลงเชื่อโอนเงินให้กว่า 200 ราย มูลค่าความเสียหาย 50 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม น.ส.จุฑาภาส อังกาพย์ อายุ 37 ปีในข้อหา “ฉ้อโกงและร่วมกันฉ้อโกง” ตามหมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ 2 หมายจับ และ ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ 1 หมายจับ ศาลจังหวัดมหาสารคาม 1 หมายจับ ศาลจังหวัดเชียงราย 1 หมายจับ และศาลจังหวัดเลย อีก 1 หมาย โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่คอนโดมิเนียมในอ.เมือง จ.ชลบุรี

พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายกว่า 200 รายทั่วประเทศ ได้รับความเดือนร้อนถูกกลุ่มมิจฉาชีพฉ้อโกง โดยหลอกลวงว่าเป็นตัวแทน บริษัท โบรกเกอร์ขายประกันภัยแห่งหนึ่ง โทรไปหาลูกค้าที่เคยทำประกันภัย และกำลังหมดอายุ เพื่อให้ต่อประกันภัย โดยเสนอส่วนลด หรือมอบของกำนัล อาทิ กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์ เพื่อจูงใจผู้เสียหายหลงเชื่อ ตกเป็นเหยื่อโอนเงินเข้าบัญชี ตกรายละ 10,000 – 25,000 บาท แต่ไม่ได้มีการทำประกันภัยรถยนต์แต่อย่างใด

ต่อมาผู้เสียหายได้ร้องเรียนไปยังที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) บริษัทโบรกเกอร์ และหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งได้รวมตัวกันแจ้งเตือนในสื่อสังคมออนไลน์ หน่วยงานต่างๆ ให้ระวังตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพ

ทั้งนี้ กลุ่มคนร้ายก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 58 คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทุนประกันเกินกว่า 50 ล้านบาท จึงสั่งการให้ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เร่งรัดติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี

จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหา ก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2558 เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดี แต่ยังไม่ยอมเลิก ยังเปิดบริษัทใหม่กระทำความผิดซ้ำอีก โดยเพิ่มรูปแบบที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ยากต่อการสืบสวนติดตามจับกุม

พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า น.ส.จุฑาภาส เคยทำงานเป็นตัวแทนขายประกันภัย จึงรู้ช่องทางในการติดต่อซื้อ-ขายประกันภัย รวมถึงมีช่องทางเข้าถึงข้อมูลของลูกค้า ผู้ต้องหาได้เปิดบริษัทหลายบริษัท และเปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัท เพื่อให้น่าเชื่อถือว่าเป็นโบรกเกอร์ขายประกันภัย เช่น บริษัท ที.ไอ.เอส ควอลิตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด บจก.ไอ.ซี.มอเตอร์ เซลล์ เซอร์วิส จากนั้นโทรไปหาเหยื่อ เพื่อหลอกให้ซื้อ ประกันรถ เมื่อเหยื่อโอนเงินเข้าบัญชี ผู้ต้องหาจะถอนเงินไปใช้ โดยที่ไม่ได้เอาเงินไปทำ ประกันรถ ทำให้เหยื่อได้รับความเสียหายและเดือดร้อนเมื่อรถยนต์เกิดอุบัติเหตุ

ด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. กล่าวว่า การทำประกันรถ ลักษณะแบบนี้ ควรตรวจสอบจากตัวแทนน่าเชื่อถือ หรือติดต่อกับบริษัทประกันภัยด้วยตนเอง ไม่ควรทำประกันผ่านตัวแทนที่ไม่เคยรู้จัก โดยเฉพาะกรณีที่มีการแจกสิ่งของเพื่อจูงใจ หรือมีราคาถูกเป็นพิเศษ เพราะอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อขอให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ในท้องที่เกิดเหตุ เพื่ออายัดตัวผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดี

"เบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องหาถูกออกหมายจับ 6 หมาย มีผู้แจ้งความไว้ 8 คดี อยู่ระหว่างขออนุมัติหมายจับและผู้เสียหายอีก 30-40 คน รวมตัวกันแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ที่กองบังคับการปราบปราม ผู้ที่ถูกหลอกลวง หรือจะขอคำปรึกษาได้ที่ เฟซบุ๊ก “วิเคราะห์ข่าว นครบาล” เป็นเฟซบุ๊ก ของกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน (บก.สส.บช.น.) จากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดีต่อไป"พ.ต.อ.พรศักดิ์กล่าว

ภาพจาก www.fm91bkk.com