posttoday

"ให้อาหารสัตว์-ทิ้งขยะไม่เป็นที่" ปัจจัยฆ่ากวางเขาใหญ่ทางอ้อม

31 พฤษภาคม 2561

เบิกไพร เพจท่องเที่ยวเผยพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่ได้ฆ่ากวางเขาใหญ่ทางอ้อม ทั้งให้อาหารสัตว์และทิ้งขยะไม่เป็นที่

เบิกไพร เพจท่องเที่ยวเผยพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่ได้ฆ่ากวางเขาใหญ่ทางอ้อม ทั้งให้อาหารสัตว์และทิ้งขยะไม่เป็นที่

เมื่อวันที่ 31 พ.ค. สังคมออนไลน์ให้ความสนใจเรื่องราวอันน่าสนใจที่เป็นประโยชน์เเละให้บทเรียนเเก่นักท่องเที่ยวทุกๆ คน

โดยเพจเฟซบุ๊ก เบิกไพร เพจที่คอยให้คำแนะนำเเละแนวทางแก่ผู้ที่ชอบการท่องเที่ยวแบบกลางเเจ้งตั้งแคมป์ เดินป่า เล่าเรื่องในหัวข้อ
"คุณกำลังฆ่ากวางที่เขาใหญ่หรือเปล่า ?" เนื้อหาระบุว่า

เมื่อก่อนเขาใหญ่จะมีจำนวนกวางชุกชุมมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณจุดกลางเต็นท์ลำตะคอง แต่พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวได้ฆ่ากวางเขาใหญ่ทางอ้อม ไม่ว่าช้าหรือเร็วสักวันหนึ่งกวางในเขาใหญ่คงไม่มีให้เราเห็น

กวางเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องมีกีบเท้า กินพืชเป็นอาหารซึ่งอาหารตามธรรมชาติไม่อร่อยเหมือนอาหารที่มนุษย์นำไปให้ เช่นขนมขบเคี้ยวที่มีรสเค็มเหมือนโป่งดิน กวางจึงติดใจชอบเข้ามาขออาหารจนสัญชาตญานในการดำรงชีวิตเปลี่ยนไป

การให้อาหารกวางไม่เพียงทำลายสัญชาตญานสัตว์แต่ยังนำโรคจากเมืองเข้าไปด้วย เชื้อดื้อยาบางตัวอาจจะติดเข้าไปในสัตว์ผ่านมือมนุษย์ แม้จะมีกฏเหล็กว่าห้ามให้อาหารสัตว์ แต่ก็ยังมีผู้ฝ่าฝืนอยู่ตลอด

"ให้อาหารสัตว์-ทิ้งขยะไม่เป็นที่" ปัจจัยฆ่ากวางเขาใหญ่ทางอ้อม

จำนวนประชากรของกวางถูกควบคุมด้วยหมาไน พฤติกรรมการใช้ชีวิตของกวางเปลี่ยนไปเมื่อรู้ว่ามาอยู่ในจุดกางเต็นท์แล้วจะปลอดภัยจึงไม่ยอมกลับไปอยู่ป่า คืนใดที่สังเกตเห็นว่ากวางไปรวมกันอยู่จุดเดียวไกลป่า แสดงว่าคืนนั้นมีหมาไนออกล่า เมื่อนาฬิกาชีวิตเรือนหนึ่งหยุดลงก็ส่งผลต่อนาฬิกาเรือนอื่นตามมา หากจำนวนกวางลดลงอย่างต่อเนื่องจำนวนหมาไนที่เป็นผู้ล่าในธรรมชาติก็จะลดลงเช่นกัน

การทิ้งขยะและเศษอาหารไม่เป็นที่ น่ากลัวกว่าที่คิด กวางในฤดูผสมพันธ์ จะมีต่อมฟีโรโมนเปิดออกคล้ายบาดแผลที่คอซึ่งจะหายได้เองหลังจากหมดฤดูผสมพันธ์ แต่จากการเข้าไปของมนุษย์ได้นำขยะเข้าไปด้วย เศษอาหารเหล่านั้นจึงเป็นเเหล่งเพาะพันธ์ของแมลงวันและเชื้อโรค เชื้อโรคจากเมืองเข้าสู่ป่าทางอาหาร กวางจึงมีแผลติดเชื้อจากแมลงวันตอม

เจ้าหน้าที่มักจะประกาศอยู่เสมอว่าให้ทิ้งอาหารไว้ในที่ทิ้งขยะ และเก็บให้มิดชิดแต่ก็มีคนไม่ทำ ผมเคยเข้าไปเตือนนักท่องเที่ยวหน้าใหม่กลุ่มหนึ่งว่า อย่าเอากล่องลังพลาสติกวางไว้เฉยๆ กวางมันจะมาเอาไป พวกเขาเหล่านั้นไม่เชื่อไม่ฟังและคิดว่าผมเรื่องมาก ไม่นานนักกวางก็มาขโมยอาหารจากท้ายกระบะ นักท่องเที่ยว พวกนั้นจึงค่อยมานำอาหารบางส่วนเก็บเข้ารถ

ตกดึกคืนนั้นกวางก็ออกมากลิ้งกล่องลังอาหารที่นักท่องเที่ยวกลุ่มนั้นวางไว้นอกเต็นท์ กวางมันเปิดกล่องไม่ได้หรอกแต่มันจะใช้หัวดันกลิ้งจนกล่องแตก
เสียงโวยวายและสบถด่าดังออกมา ผมเตือนคุณแล้ว แต่คุณเลือกที่จะไม่เชื่อเองถ้าคุณไม่รู้ผมจะไม่ว่าอะไรซักคำ แต่คุณรู้แล้วยังเฉย

กวางไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นอันตรายต่อร่างกายของมัน มันรู้แค่ว่ากลิ่นน่ากินมันก็กินแกงถุงที่เหลือทิ้งไว้นอกเต็นท์ไม่นำไปทิ้งถังขยะ ก็เข้าไปอยู่ในท้องกวางจากเหตุผลข้างต้น ด้วยเหตุนี้ทางอุทยานจึงจัดที่ทิ้งขยะไว้ให้ในกรงแต่ความมักง่ายของนักท่องเที่ยวก็ไม่ทำ และมันกำลังฆ่ากวางอย่างช้าๆ

ผมสัญญากับพี่คนหนึ่งไว้ว่าจะนำเรื่องนี้มาลงเพจ เพื่อประชาสัมพันธ์เพราะกวางเขาใหญ่เหลือน้อยจริงๆ แม้เพจผมจะไม่ใช่เพจใหญ่แต่มันก็เหมือนเมล็ดพันธ์ ผมคนเดียวบอกเพื่อน 5 คน เพื่อนอีก 5 คนบอกอีกต่อๆไปไม่นานเราก็ช่วยชีวิตสัวต์ป่าเหล่านั้นไว้ได้

กวางที่ตายโดยไม่มีบาดแผลเมื่อผ่าท้องออกมาจะพบว่ามีถุงพลาสติกอยู่ในร่างกายมากถึง 10 กิโลกรัม น้ำหนักขนาดนั้นก็พอๆกับน้ำดื่มเต็มถัง ลองคิดดูว่าถ้าเป็นคุณจะทรมารขนาดไหนที่ต้องแบกน้ำหนักขนาดนั้นตลอดเวลา

แล้วมีทางแก้ไหม คำตอบคือไม่มี นอกจากปิดอุทยาน ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วกวางก็จะต้องตายด้วยถุงพลาสติก เพียงแต่เราจะยื้อเวลาให้เขาอยู่กับเรานานที่สุด

แค่ไม่ให้อาหารยังไม่พอ แต่ยังต้องไม่เอาอาหารไว้นอกเต็นท์ ในเต็นท์หรือ
แม้แต่ขยะที่ไม่มีอาหารแล้วก็ควรทิ้งให้ถูกที่ เพราะถ้าคุณไม่ทำนั่นคือคุณกำลังฆ่าพวกเขาทางอ้อม

ภาพจากคุณ : นนทัช รักไทย