กรมคุกไม่ขัดอดีตพระเถระประสงค์อดข้าวเย็น ถือศีลต่อ

อธิบดีราชทัณฑ์ไม่ขัดอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ประสงค์อดข้าวเย็น-ถือศีลต่อในคุกทำได้ เหตุยังเป็นผู้ต้องขังระหว่างไม่เน้นกิจกรรมเข้มงวด

เมื่อวันที่ 30 พ.ค. พ.ต.อ ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า การดูแลการเตรียมมาตรการควบคุมพระพรหมสิทธิ หรือนายธงไชย สุขโข อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศวรวิหาร ที่เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามในวันนี้ และอาจถูกส่งตัวเข้าคุมขังในเรือนจำ ในวันแรกจะต้องถูกควบคุมในแดนแรกรับ หรือแดนหนึ่งก่อนเพื่อให้ผู้ต้องขังเข้าใหม่มีโอกาสปรับตัวและเรียนรู้ระเบียบข้อบังคับของเรือนจำ อย่างไรก็ตามอดีตพระดังกล่าวถือว่าเป็นเพื่อนมนุษย์และเป็นผู้ต้องขังสูงอายุที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งบุคคลเหล่านี้ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์

หลังจากที่ตำรวจนำมาฝากขัง ผู้ต้องหาทุกคนจะยังไม่มีการแยกแดนขัง และไม่ได้ทำกิจกรรมมากนัก เพราะต้องใช้เวลาในการต่อสู้คดี ต้องปรึกษาทนาย

ทั้งนี้หลายๆคนแม้ถอดผ้าเหลืองไปแล้วแต่ มีความประสงค์ที่จะปฎิบัติธรรม  ถือศีล 5 ศีล8 เพื่อและงดอาหารเย็นเหมือนที่เคยปฎิบัติมาทางเรือนจำก็พร้อมอนุโลมให้  เช่นเดียวกันกับผู้ต้องหาที่นับถือศาสนาอิสลาม  เพราะที่ผ่านมาทางเรือนจำก็ให้ประกอบศาสนกิจโดยการทำละหมาด ถือมาการทำกิจกรรมทางศาสนาใดๆก็ตามถือเป็นสิ่งที่ดี

“สำหรับการดูแลอดีตพระเถระชั้นผู้ใหญ่นั้น ทางเรือนจำได้ให้หมอเข้าไปดูแลสุขภาพ และเปิดโอกาสให้ลูกศิษย์เข้าเยี่ยมตามเวลาที่กำหนด อย่างในช่วงเช้าที่ผ่านมาได้รับรายงานอดีตพระพุทธอิสระ มากกว่า 200 -300 คน ทางเรือนจำก็อนุโลมให้มีการพูดคุยอย่างทั่วถึง เพราะผู้ต้องขังดังกล่าวยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ต้องขังระหว่าง บางรายต้องใช้เวลาในการสู้คดีมากว่า 5 – 10 ปี จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาจนถึงที่สุด แล้วจึงค่อยจัดลำดับชั้นนักโทษต่อไป”อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว