posttoday

โพลชี้คนมั่นใจกรณีทุจริตเงินทอนวัดไม่ทำให้ศรัทธาต่อศาสนาลดลง

27 พฤษภาคม 2561

โพลเผยคน 79.37% มองข่าวทุจริตเงินทอนวัดไม่ทำให้ความศรัทธาต่อพุทธศาสนาลดลง เชื่อมีพระสงฆ์รู้เห็น

โพลเผยคน 79.37% มองข่าวทุจริตเงินทอนวัดไม่ทำให้ความศรัทธาต่อพุทธศาสนาลดลง เชื่อมีพระสงฆ์รู้เห็น

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม แถลงผลการสำรวจ "ความคิดเห็นของพุทธศาสนิกชนไทยต่อข่าวทุจริตเงินทอนวัดกับความศรัทธาในพระพุทธศาสนา" โดยสำรวจความคิดเห็นประชาชนจำนวน 1,139 คนระหว่างวันที่ 21 ถึง 26 พฤษภาคม 2561

นายศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโสสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม กล่าวว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป แบ่งเป็นเพศหญิงร้อยละ 50.92 และเพศชายร้อยละ 49.08 สามารถสรุปผลได้ดังนี้ ในด้านความสนใจเกี่ยวกับข่าวทุจริตเงินทอนวัด กลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 49.52 ระบุว่าตนเองให้ความสนใจติดตามข่าวทุจริตเงินทอนวัดบ้าง ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 28.71 ระบุว่าตนเองให้ความสนใจติดตามโดยตลอด และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 21.77 ยอมรับว่าตนเองไม่ได้ให้ความสนใจติดตามเลย

ในด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับการทุจริตเงินทอนวัด กลุ่มตัวอย่างเกือบสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 65.06 เชื่อว่ามีพระสงฆ์เข้าไปมีส่วนรู้เห็น/พัวพันเกี่ยวข้องในคดีทุจริตเงินทอนวัด แต่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 72.17 ระบุว่าตนเองไม่รู้สึกกังวลว่าการแจ้งข้อกล่าวหาพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ที่มีส่วนพัวพันในคดีทุจริตเงินทอนวัดจะนำไปสู่ความขัดแย้งวุ่นวายในบ้านเมือง

นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างมากกว่าสามในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 77.09 ไม่เห็นด้วยว่าการแจ้งข้อกล่าวหาพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ที่มีส่วนพัวพันในคดีทุจริตเงินทอนวัดจะเป็นการทำลายพระพุทธศาสนา

ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างเกือบสี่ในห้าหรือคิดเป็นร้อยละ 79.37 มีความคิดเห็นว่าข่าวทุจริตเงินทอนวัดจะไม่มีส่วนทำให้ความศรัทธาในหลักธรรมคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนาของตนเองลดลงไป ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 73.31 มีความคิดเห็นว่าข่าวทุจริตเงินทอนวัดจะไม่มีส่วนทำให้พุทธศาสนิกชนลดความเชื่อถือศรัทธาต่อพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาโดยรวม

นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 54.78 มีความคิดเห็นว่าข่าวทุจริตเงินทอนวัดจะไม่มีส่วนทำให้ความใกล้ชิดระหว่างพุทธศาสนิกชนกับวัดลดลงไปได้ ในด้านความคิดเห็นต่อแนวทางแก้ปัญหาการทุจริตเงินทอนวัดในอนาคต กลุ่มตัวอย่างมากกว่าสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 67.95 มีความคิดเห็นว่าหากมีการกำหนดให้ทุกวัดต้องแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายให้สาธารณะได้รับทราบจะมีส่วนช่วยลดปัญหาการทุจริตเงินทอนวัดในอนาคตได้และกลุ่มตัวอย่างประมาณสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 66.46 มีความคิดเห็นว่าหากมีการกำหนดให้เจ้าอาวาสทุกวัดต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินส่วนตัวให้สาธารณะได้รับทราบจะมีส่วนช่วยลดปัญหาการพัวพันทุจริตเงินทอนวัดของพระสงค์ในอนาคตได้