"อ.ธรณ์" เผยรายได้กรมอุทยานฯ หลังรัฐประหารเพิ่มขึ้นกว่า 1.7 พันล้าน

ดร.ธรณ์ เผยรายได้การเก็บเงินของกรมอุทยานฯ ในรอบ 4 ปีหลังการปฏิรูปเพิ่มจากเกือบ 7 ร้อยล้านต่อปี เป็น 2 พันกว่าล้านบาท

เมื่อวันที่ 24 พ.ค.  ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ลงเฟชบุ๊กเปิดเผยรายได้ การเก็บเงินของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในช่วงตั้งแต่ปี 2555 ถึง 2561 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมีเงินเข้ากรมอุทยานฯ เพิ่มขึ้นมาก

ดร.ธรณ์ ระบุว่า ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมาจากการปฏิรูปด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยจากข้อมูลสถิติเงินรายได้อุทยานฯก่อนปี 57 ได้เงินจากอุทยานไม่ถึง 35 ล้าน แต่ปีที่แล้วได้ 120 ล้าน และปีนี้น่าจะถึง 170 ล้าน ชัดเจนว่าก่อนและหลังการปฏิรูปอุทยานฯ สามารถเก็บเงินค่าธรรมเนียมได้แตกต่างกันเท่าไหร่ โดยที่อุทยานหลักๆ เช่น พีพี สิมิลัน อ่าวพังงา ฯลฯ ไม่ได้เพิ่มค่าเข้าแต่อย่างใด

สำหรับเงินเหล่านี้ เงินเหล่านี้ 5% จะให้ท้องถิ่น อีก 20% อุทยานในพื้นที่จะนำไปใช้ในนการจัดการทรัพยากร ส่วนที่เหลือนำไปช่วยอุทยานอื่นทั่วประเทศ ซึ่งหากไม่ไม่มีเงินเหล่านี้ก็ไม่สามารถพัฒนากิจกรรมต่างๆได้ เช่น ซื้อเรือ 14 ลำใช่ในการวาง 200 ทุ่นจอด เป็นต้น

ดร.ธรณ์ ระบุว่า สาเหตุที่นำข้อมูลดังกล่าวมาเปิดเผย เพราะอยากให้ทุกคนช่วยสนับสนุนการปฏิรูปด้านทรัพยากร และจะได้ทราบว่าสิ่งที่ทุกคนช่วยกันทำมาตลอดได้เกิดขึ้นให้เห็นเป็นรูปธรรม และหวังว่าด้วยเงินที่เพิ่มขึ้นมากนี้ กรมอุทยานจะสามารถยกระดับพัฒนาให้เป็นซูเปอร์อุทยานฯ ตามแผนปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติได้