posttoday

นักปั่นเจ็บจากเหตุเบียดล้มไม่ติดใจเอาความคู่กรณี ขอเป็นบทเรียนให้มีน้ำใจนักกีฬา

21 พฤษภาคม 2561

นักปั่นได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในคลิปเบียดล้มระหว่างการแข่งขันเผยไม่ติดใจเอาความคู่กรณี ขอเป็นบทเรียนให้มีน้ำใจนักกีฬา อย่าหวังเพียงแค่ถ้วยรางวัล

นักปั่นได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในคลิปเบียดล้มระหว่างการแข่งขันเผยไม่ติดใจเอาความคู่กรณี ขอเป็นบทเรียนให้มีน้ำใจนักกีฬา อย่าหวังเพียงแค่ถ้วยรางวัล

เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคลิปเหตุการณ์นักแข่งจักรยานเบียดกันจนล้มภายในการแข่งขันปั่นจักรยานทางไกลแห่งลุ่มแม่น้ำโขง ประจำปี 2561 ที่ จ.นครพนมตกเป็นประเด็นที่มีผู้สนใจวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดคณะกรรมการจัดการแข่งขันได้ทราบเรื่องแล้วและเตรียมนำหลักฐานไปสรุปข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการต่อไป แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีนักปั่นจักรยาน ที่เข้าร่วมแข่งขัน จาก จ.สกลนคร ประมาณ 6 – 7 คน ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจากการติดต่อสอบถาม ทางกลุ่มนักปั่นจักรยานที่ได้รับบาดเจ็บ ยืนยันว่า ไม่ติดใจที่จะเรียกร้องค่าเสียหาย แต่ขอให้เป็นบทเรียนราคาแพง สำหรับนักปั่นจักรยานรุ่นใหม่ ที่กำลังมีอนาคต โดยอยากให้คำนึงถึงความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา อย่าหวังเพียงแค่รางวัล

นายประวิทย์ บุญญาวรรณ อายุ 59 ปี นักปั่น ชาว อ.เมือง จ.สกลนคร หนึ่งในผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ลงแข่งในรุ่นอายุ 50 ปี ขึ้นไป และอยู่ในเหตุการณ์เพราะปั่นอยู่แนวหลัง ซึ่งที่ผ่านมาตนมีประสบการณ์เรื่องแข่งขัน มานานกว่า 30 ปี การเกิดอุบัติเหตุถือว่าเป็นเรื่องปกติ มีโอกาสเกิดสูง ยิ่งในช่วงเข้าเส้นชัย ประมาณ 600 -700 เมตร ซึ่งในวันเกิดเหตุการเร่งเข้าเส้นชัยนักแข่งทุกคนรู้อยู่แล้วว่าจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ส่วนการชนกันนั้นไม่ต้องพูดถึงเพียงวินาทีเดียวก็กลิ้งกันคนละทางแล้ว ส่วนในครั้งนี้ มีนักปั่นที่ได้รับบาดเจ็บในกลุ่มที่ไปด้วยกัน ได้รับบาดเจ็บ 7 -8 คน รวมถึงตนด้วย ได้รับบาดเจ็บแผลฉีกขาดบริเวณข้อเท้าเย็บไป 5 เข็ม

"ผมได้ดูคลิปแล้ว ไม่อยากกล่าวหาอะไรมากไปกว่านี้ สำคัญที่สุดน้องเขารู้อยู่แกใจ สังคมเป็นผู้ตัดสินจากภาพ สิ่งที่นักกีฬาควรคำนึงที่สุดคือน้ำใจนักกีฬา อย่ามองแค่ถ้วยรางวัล หากจะบอกว่าเป็นเกมการแข่งขันคงใช่ แต่หากจะเทียบระหว่างสนามระดับโลก ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง คงไม่ใช่ เพราะสนามแข่งขันบ้านเรา คงไม่ต้องเอาเป็นเอาตายขนาดนั้น การมีน้ำใจนักกีฬาเป็นเรื่องสำคัญ ผมยืนยันไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายอะไร พร้อมให้อภัย แต่อยากเห็นน้องเขามาขอโทษสังคม ยอมรับความจริง ทุกคนพร้อมให้อภัย และขอให้เป็นบทเรียนราคาแพงนำไปปรับปรุงตัวเอง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะนักปั่นเยาวชนที่กำลังมีอนาคต เพราะกีฬาไม่ว่าจะประเภทไหน น้ำใจ สปิริต จะต้องมาก่อนรางวัล ส่วนการดำเนินการต่อไปขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของสมาคม"นายประวิทย์กล่าว

ด้าน นายเรืองพิทักษ์ สินทวีศิริศักดิ์ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นนักปั่นอีกคนที่ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ยอมรับว่าการปั่นจักรยานกลุ่มใหญ่ๆ มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุ ถือเป็นเรื่องปกติ แต่พอมาดูคลิปแล้ว ดูลักษณะแล้ว เชื่อว่าคงไม่ใช่อุบัติเหตุ การล้มครั้งนี้ทำให้คิ้วขวาแตกโชคดี แขนขา ไม่หัก ส่วนค่าเสียหายจักรยานไม่ต้องพูดถึง เพราะแต่ละคันราคาหลักแสน เมื่อเกิดอุบัติเหตุเสียหายอยู่แล้ว

แม้ภาพจากคลิปจะชัดเจน แต่ตนและทีมนักปั่นที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมให้อภัยเสมอ ไม่เรียกร้องอะไร เพราะถือว่าเป็นนักกีฬา ต้องมีน้ำใจนักกีฬา ถ้าน้องเขาออกมาแสดงความจริงใจแสดงความเป็นลูกผู้ชาย โดยเฉพาะขอโทษสังคมจะยิ่งดีมากถือซะว่าเป็นบทเรียนและนำไปพัฒนาเป็นนักกีฬาอาชีพที่ดีต่อไปในอนาคต