จับอดีตนักเรียนนายร้อยตำรวจอ้างสนิทประธานศาลหลอกเหยื่อ

กองปราบรวบอดีตนักเรียนนายร้อยตำรวจอ้างรู้จักประธานศาลฎีกา-บิ๊กแวดวงตุลาการ หลอกเงินจากเหยื่อที่ต้องการรื้อฟื้นคดี

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 .บก.ป. พ.ต.อ. แมน แม่นแย้ม ผกก.4 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่กก.3. และ 4 .บก.ป. จับกุมนายธนากร อดีตนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่น 45 ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 219/2561 ลงวันที่ 23 เม.ย. 2561 ในฐานความผิด แสดงตนเป็นผู้อื่น จับได้ที่ริมถนนมิตรภาพสายเก่า ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และจับนายชาญชัย ผู้ต้องหาตามหมายจับฐานผิดร่วมกันฉ้อโกง ได้ที่บ้านพักย่านสมุทรปราการ

พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายได้ร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปรามว่า ขอให้โอนคดีฉ้อโกงจากสภ.ปากเกร็ดมาให้กองปราบปรามทำ หลังถูกผู้ต้องหาทั้งสองรายหลอกลวงว่า สามารถรื้อฟื้นคดีฆ่าผู้อื่นของสามีที่ถูกดำเนินคดีอยู่ได้โดยมีค่าดำเนินการจำนวน 2 แสนบาท ผู้เสียหายได้หลงเชื่อโอนเงินให้ตามจำนวนที่ตกลง เหตุเกิดเมื่อราวปี 2559 กระทั่งต่อมาพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองรายไม่ได้รื้อคดีให้ตามที่กล่าวอ้าง จึงได้มาแจ้งความดำเนินคดีฉ้อโกงที่สภ.ปากเกร็ด ต่อมาพนักงานสอบสวนสภ.ปากเกร็ดได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองรายไว้

พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามพบความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาทั้งสองรายจึงได้นำกำลังจับกุมเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ขัดแย้งกับแนวทางการสืบสวนที่พบว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนมักอ้างตัวรู้จักกับประธานศาลฎีกา และข้าราชการระดับสูงในแวดวงตุลาการ รวมทั้งอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ สามารถวิ่งคดีความได้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการหลอกว่าสามารถวิ่งเต้นตำแหน่งรองผกก. สารวัตร ได้ โดยเหยื่อรายล่าสุดเป็นข้าราชการตำรวจยศ พ.ต.ท. ในรุ่นนรต.47 เป็นต้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.ปากเกร็ดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

มีรายงานว่าจากการตรวจสอบประวัตินายธนากร พบว่ามีหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่59/2560 ลงวันที่ 3 มิ.ย. ในฐานความผิดฉ้อโกงทรัพย์ ติดตัว นอกจากนี้ยังพบว่านายธนากร เป็นอดีตนายร้อยตำรวจสามพรานรุ่น 45 รุ่นเดียวกับพ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบก.ป. ผู้สั่งการจับกุม และถูกให้ออกจากราชการปี 2546 สาเหตุมาจากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์จากคดียาเสพติด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองสว.สส.สภ.เมืองนครราชสีมา จากนั้นได้มีการวิ่งเต้นคดีความโดยนายธนากรนำเงินนรต.รุ่น 45 ไปใช้ในการวิ่งเต้นคดี โดยอ้างกับเพื่อนในรุ่นว่าเดือดร้อน ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการไม่นับรุ่นกันในเวลาต่อมา ส่วนนายชาญชัยเคยถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุมในคดีลักษณะเดียวกันเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2559 และยังมีหมายจับติดตัวกว่า 10 หมายจับด้วย