posttoday

ภาคีเชียงใหม่ทบทวนท่าที ไม่ยกระดับเคลื่อนไหว ให้โอกาสภาครัฐแก้ปัญหา

04 พฤษภาคม 2561

ภาคีคนไทย จ.เชียงใหม่ วอนยุติการเคลื่อนไหว หวั่นไม่เกิดผลดีต่อประเทศ แต่ยังล่าชื่อให้รื้อถอนบ้านพักตุลาการ ด้าน 'ต่อตระกูล'เสนอยกบ้านทั้งหลัง

ภาคีคนไทย จ.เชียงใหม่ วอนยุติการเคลื่อนไหว หวั่นไม่เกิดผลดีต่อประเทศ แต่ยังล่าชื่อให้รื้อถอนบ้านพักตุลาการ ด้าน 'ต่อตระกูล'เสนอยกบ้านทั้งหลัง

นายกฤตย์ เยี่ยมเมธากร เลขาธิการภาคีคนไทยห่วงใยชาติจังหวัดเชียงใหม่ ได้อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้ชาวเชียงใหม่ยุติการเคลื่อนไหว หรือจัดกิจกรรมชุมนุมใหญ่ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหา บ้านพักตุลาการเชิงดอยสุเทพ หลังจากกำหนดที่จะชุมนุมใหญ่วันที่ 6 พ.ค.นี้ เพื่อ รอผลการแก้ปัญหาจากทางรัฐบาลก่อน จนกว่าจะถึงเดือน มิ.ย. ที่จะมีการเบิกจ่ายงบประมาณเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงกลับมาพิจารณาเรื่องการเคลื่อนไหวว่าจะมีการยกระดับหรือไม่

ทั้งนี้ หากมีการเคลื่อนไหวในช่วงนี้เกรงว่าจะไม่เกิดผลดีต่อประเทศชาติ ควรจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ดีกว่ายก ระดับการชุมนุมเพื่อเคลื่อนไหวเรียกร้องในช่วงนี้

นายกฤตย์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นชาวเชียงใหม่คนหนึ่ง ขณะนี้ได้รับข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้จากหลายฝ่าย จึงต้องออกมาแจ้งให้ประชาชนชาวเชียงใหม่ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวและพิจารณาในการที่จะเข้าร่วมเคลื่อนไหวทำกิจกรรม การที่รัฐบาลจะดำเนินการใดๆ ต่อบ้านพักที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ต้องผ่านกระบวนการส่งมอบงานจากผู้รับเหมา และดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณแผ่นดินให้เสร็จสมบูรณ์ตามขั้นตอน จึงจะสามารถดำเนินการตามที่ชาวเชียงใหม่เรียกร้องได้

นายกฤตย์ กล่าวว่า ชาวเชียงใหม่จะต้องเปิดใจยอมรับ เนื่องจากเป็นเรื่องของกระบวนการทางกฎหมายที่รัฐบาลไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยกระบวนการนี้จะเสร็จสิ้นประมาณปลายเดือน มิ.ย.นี้ หลังจากนั้นรัฐบาลจะพิจารณาดำเนินการ รื้อ หรือ ไม่รื้อต่อไป

สำหรับเรื่องที่ทางภาคีฯ เคยยื่นหนังสือของให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขตป่า ขณะนี้มีความคิดเห็นเช่นเดียวกับรัฐบาลว่ายังไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้มาตรา 44 เพื่อดำเนินการรื้อถอน การรื้อถอนสามารถนำกฎหมายข้ออื่นมาดำเนินการรื้อถอนได้ ดังนั้น ภาคีฯ จึงขอเปลี่ยนการเรียกร้องจากที่เคยให้ใช้มาตรา 44 เป็นการเชิญชวนชาวเชียงใหม่ลงชื่อสนับสนุนให้รัฐบาลรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแทน โดยจะออก ตั้งโต๊ะตามสถานที่สาธารณะ เช่น ตลาดสด ตลาดนัด และตามศูนย์การค้า

นอกจากนั้น การรื้อถอนบ้านพักข้าราชการตุลาการจะเกิดความเสียหาย มูลค่าประมาณ 700-900 ล้านบาท ประชาชนต้องแสดงน้ำใจให้กับรัฐบาลเพื่อรับผิดชอบร่วมกันระหว่างรัฐและประชาชน จึงอยากเชิญชวนภาคประชาชนเข้ามาร่วมเป็น คณะทำงานจัดหารายได้และร่วมกัน รับผิดชอบเงินบริจาค เพื่อส่งให้รัฐบาล เป็นค่าชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น

นายต่อตระกูล ยมนาค อดีตนายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ระบุว่า การแก้ปัญหาแบบวิศวกร โดยการย้ายบ้านทำได้หลายวิธี เช่น ยกย้ายทั้งหลัง ตัดเป็นชั้นๆ ตัดเป็นส่วนๆ และถอดออกเป็นชิ้น ที่ผ่านมาคนไทยสามารถยกอาคารทั้งหลัง วิ่งไป ส่งขึ้นเรือไปญี่ปุ่น โดยให้ดูรถแท่นล้อสำหรับเคลื่อนอาคาร ที่อยู่ใต้อาคารว่าไทยมีรถพร้อมบรรทุกอาคารใหญ่ทั้งหลัง หรือไม่ นอกจากนี้การตัดเสา ยกบ้าน ฝีมือคนไทยก็ทำกันมาก

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีกำหนด จะเดินทางลงพื้นที่ในวันที่ 6 พ.ค. เพื่อไปพูดคุยรับฟังข้อเสนอแนะจากเครือข่ายภาคประชาชนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน  โดยจะไม่มีการตั้งธงไปก่อนล่วงหน้า แต่จะเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้พูดคุยถึงทางออกร่วมกันอย่างเต็มที่

นายสุวพันธุ์  กล่าวว่า  การลงพื้นที่ไปแก้ไขปัญหาในครั้งนี้จะยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ซึ่งน่าจะมีความเห็นตรงกันกับเครือข่ายภาคประชาชน  ดังนั้นเชื่อว่าทางออกในการแก้ไขปัญหาคงไม่ยากจนเกินไป  และหลังจากการรับฟังข้อเสนอแนะกับทุกฝ่ายอย่างรอบด้านแล้ว ก็จะนำไปสู่แนวทางการแก้ไขปัญหา