กองคุ้มครองผู้บริโภคฯแจงข้อสงสัยสัญญาเช่าห้องพักหลังประกาศใหม่บังคับใช้

กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สคบ.แจงข้อสงสัยของผู้ประกอบการ หลังประกาศให้ธุรกิจการให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญาบังคับใช้

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า ตามที่ผู้ประกอบธุรกิจ ได้มีข้อสงสัยเกี่ยวกับประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2561เป็นจำนวนมากนั้น

กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา ขอชี้แจงผู้ประกอบธุรกิจดังนี้

1. สัญญาที่ทำก่อนประกาศ จะใช้บังคับวันที่ 1 พค.2561 ให้ปฏิบัติตามสัญญาที่ทำกันไว้จนกว่าสัญญาเช่าจะสิ้นสุด หรือ สัญญาเลิกกัน

2. ตั้งแต่วันที่ 1 พค.2561 เป็นต้นไป หากมีผู้เช่า(ผู้บริโภค) มาทำสัญญาเช่ากับผู้ประกอบธุรกิจ (ผู้ให้เช่า) จะต้องปฏิบัติตามนี้

2.1 รูปแบบสัญญาจะต้องเป็นข้อความภาษาไทย

2.2 ขนาดของตัวอักษร ต้องไม่เล็กกว่า 2 มิลลิเมตร และจำนวนตัวอักษรไม่เกินสิบเอ็ดตัวอักษรในหนึ่งนิ้ว (หนึ่งนิ้วไม้บันทัด) ฟรอนตัวอักษรใช้ ไทยสารบรรณ ขนาดตัวอักษร 16

2.3 ในสัญญาของผู้ประกอบธุรกิจ ต้องมีข้อความ ตามประกาศ ข้อ 3 ที่กำหนดไว้ใน (1)-(7) ไว้ในสัญญา

2.4 ในสัญญาของผู้ประกอบธุรกิจต้องไม่มีข้อความ ตามที่ประกาศห้ามไว้ ในข้อ 4 (1)-(13)

2.5 ต้องมีการส่งมอบสัญญาเช่าให้ผู้บริโภค 1 ฉบับ เมื่อมีการลงนามในสัญญา

หากผู้ประกอบธุรกิจ ได้กระทำการตามที่กำหนดไว้ในข้อ 1 และข้อ 2 แล้ว ก็ไม่ต้องรับผิดโทษทางอาญา ตามมาตรา 57 แห่ง พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 ซึ่งมีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หมายเหตุ ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจสามารถเขียนข้อสัญญาเพิ่มเติมได้ แต่ต้องไม่ฝ่าฝืนตามประกาศ ในข้อ 4 (1)-(13) หากผู้ประกอบธุรกิจได้จัดทำสัญญาเสร็จสิ้น และมีความสงสัยว่าข้อสัญญาดังกล่าวจะเป็นการฝ่าฝืนประกาศหรือไม่อย่างไร สามารถยื่นคำขอความเห็นต่อคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาได้ (ตามระเบียบการยื่นขอความเห็นคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เกี่ยวกับการขอความเห็นแบบสัญญา)

ทั้งนี้ ให้ผู้ประกอบธุรกิจยึดเนื้อหาของประกาศฯ เป็นหลัก ในการจัดทำสัญญา เนื่องจากเนื้อหาในข่าว และการแชร์ข้อความต่างๆ ในสื่อโซเชียล อาจไม่ถูกต้อง ตรงกับเนื้อหาในประกาศ