posttoday

ศาลไม่รับฟ้อง คดี "จ.ส.ต."ร้อง2สารวัตรหักเบี้ยเลี้ยงซื้อแอร์

24 เมษายน 2561

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางไม่รับฟ้องคดี "จ.ส.ต."ยื่นฟ้องเอาผิด 2สารวัตร สน.พหลโยธินหักเบี้ยเลี้ยงไปซื้อแอร์

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางไม่รับฟ้องคดี "จ.ส.ต."ยื่นฟ้องเอาผิด 2สารวัตร สน.พหลโยธินหักเบี้ยเลี้ยงไปซื้อแอร์

เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี ศาลได้อ่านคำสั่งชั้นตรวจคำฟ้องในคดีที่ จ.ส.ต.เลอศักดิ์ นนท์ขุนทด อดีต ผบ.หมู่ สส.สน.พหลโยธิน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ต.ชลากร ปานแดง และ พ.ต.ต.เอกราช โอมาก อดีต สว.สส.สน.พหลโยธิน ที่ปัจจุบันถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่ สน.ดอนเมือง และ สน.สายไหม เป็นจำเลยที่ 1-2 ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจข่มขืนใจหรือจูงใจให้ผู้อื่นมอบทรัพย์สินให้ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 และปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ หรือโดยทุจริตฯ ตามมาตรา 157

ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์คำฟ้องโจทก์ที่ระบุว่าจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นสารวัตรสืบสวนและเป็นผู้บังคับบัญชาของโจทก์ กับตำรวจชั้นประทวน สน.พหลโยธินได้ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต โดยร่วมกันออกคำสั่งข่มขู่บังคับให้หักเบี้ยเลี้ยงของโจทก์กับพวกอีก11คน โดยให้โจทก์ได้รับเบี้ยเลี้ยงคนละ2,500บาท จากที่โจทก์มีสิทธิได้รับเงินจำนวน5,720บาท และให้ไปถอนเงินเบี้ยเลี้ยงส่วนเกินมามอบให้จำเลยทั้งสอง หากไม่ทำจะถูกจำเลยทั้งสองกลั่นแกล้งหรือโดนโยกย้าย อันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบเกี่ยวกับการจ่ายเบี้ยเลี้ยงของทางราชการ โดยเจตนาให้โจทก์และผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ ซึ่งโจทก์กับพวกไม่ยินยอมและไม่พอใจ แต่ต้องจำยอม ซึ่งจำเลยทั้งสองได้เบี้ยเลี้ยงจากโจทก์และตำรวจชั้นประทวนอีก11คน รวมเป็นเงิน25,300บาท

จำเลยทั้งสองนำเงินไปซื้อเครื่องปรับอากาศเพื่อประโยชน์แก่จำเลยทั้งสองและผู้อื่น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบให้เกิดความเสียหาย มีเจตนาทุจริต นำเงินไปซื้อเครื่องปรับอากาศโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย และข่มขืนใจโจทก์ให้ส่งมอบทรัพย์สินแก่จำเลยทั้งสอง ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ขอให้ลงโทษจำเลยนั้น

ศาลเห็นว่า การตั้งด่านตรวจของโจทก์กับพวกซึ่งเป็นตำรวจชั้นประทวน แม้อยู่ใต้การบังคับบัญชาของจำเลยทั้งสอง ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา แต่การที่โจทก์กับพวกจะได้รับค่าตอบแทน เบี้ยเลี้ยงจากการปฏิบัติหน้าที่ก็เป็นกรณีที่ทางราชการได้วางระเบียบหรือหลักเกณฑ์ไว้ในทางบริหารต่างหาก

และตามเอกสารท้ายฟ้องของโจทก์ก็ได้ระบุว่า สน.พหลโยธิน ยังต้องส่งหลักฐานขอเบิกเบี้ยเลี้ยงต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไป เพื่อพิจารณาอนุมัติ ตามฟ้องก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการจ่ายเงินค่าเบี้ยเลี้ยงให้แก่โจทก์กับพวก ที่จะถือได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นเจ้าพนักงาน มีอำนาจหน้าที่จะออกคำสั่งหักเงินเบี้ยเลี้ยงของโจทก์กับพวกหรือข่มขู่บังคับโจทก์กับพวกให้นำเงินเบี้ยเลี้ยงส่วนเกินมามอบให้โจทก์ทั้งสอง ที่จะถือได้ว่าเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งของจำเลยทั้งสองโดยมิชอบฯ

การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่อาจเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา148และ157ไม่ใช่คดีทุจริตและประพฤติมิชอบตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559มาตรา3ที่จะรับไว้พิจารณาพิพากษาได้ จึงมีคำสั่งไม่รับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ