posttoday

อดีตพนักงานธนาคารผันตัวเป็นมิจฉาชีพ นำบัญชีเงินฝากขายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

20 เมษายน 2561

ตำรวจจับหนุ่มอดีตพนักงานธนาคารผันตัวมาเป็นมิจฉาชีพเปิดกลุ่มเฟซบุ๊กรับซื้อบัญชีเงินฝากก่อนไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจจับหนุ่มอดีตพนักงานธนาคารผันตัวมาเป็นมิจฉาชีพเปิดกลุ่มเฟซบุ๊กรับซื้อบัญชีเงินฝากก่อนไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทองรองผบก.ทท.1 พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผบก.ทท.2 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร พ.ต.ท.เธียรธวัช อรรจนะเวทางค์ รองผกก.ปฏิบัติงาน กอ.รมน. ได้ร่วมกันจับกุม นายนัฐชา อายุ 32 ปี ตามหมายจับศาลอาญาในข้อหา “ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ” สามารถจับกุมได้ที่ห้องเช่า ในซอยพหลโยธิน 32 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนทราบว่า นายนัฐชา ได้เปิดเฟซบุ๊กโดยใช้นามแฝงและไปเปิดกลุ่มเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า "รับซื้อขายสมุดบัญชี+บัตรATM" โดยในกลุ่มจะมีสมาชิกจำนวน 100 ราย ที่ใช้ในการพูดคุยซื้อขายบัญชี โดยผู้ที่ขายบัญชีจะต้องมีเอกสารประกอบด้วย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน บัตรเอทีเอ็มพร้อมรหัส สมุดบัญชี และ ซิมการ์ดการ์ดที่ลงทะเบียนกับบัญชีไว้ ซึ่งเมื่อส่งมาแล้วผู้ต้องหาจะทำการเช็คบัญชีดังกล่าวว่าใช้ได้หรือไม่ หลังจากนั้นไม่เกิน 3 วัน ผู้ต้องหาจะโอนเงินจำนวน 900 - 1,000บาท แก่เจ้าของบัญชีนั้น ๆ

จากนั้นเมื่อได้บัญชีมาผู้ต้องหาจะนำบัญชีไปขายต่อให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือกลุ่มแก๊งที่กระทำความผิด สูงสุดในราคา 3,000 - 20,000 บาท

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่านายนัฐชาเคยประกอบอาชีพเป็นพนักงานธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งจึงมีความคล่องตัวในเรื่องของการเปิด ปิดบัญชี ก่อนที่จะผันตัวเองมาเป็นมิจฉาชีพได้ประมาณ 1-2 ปี จากการตรวจสอบพบว่ามีการขายบัญชีไปแล้ว 50 บัญชี ซึ่งบางบัญชีได้เปิดเฟซบุ๊กเป็นเซียนพระชื่อดัง และหลอกเอาเงินจากผู้เล่นพระให้โอนเงินมาให้จากนั้นก็ปิดเฟซบุ๊กดังกล่าวไป

"อยากฝากเตือนไปยังผู้กระทำความผิดว่าขณะทางเจ้าหน้าที่มีรายชื่อผู้ที่เอาบัญชีไปเปิดจำนวน 134 ราย ซึ่งการนำบัญชีมาขายมีความผิดทุกราย ซึ่งได้ปรึกษาหารือกับทาง ปปง.แล้ว เพื่อชี้มูลฐานความผิดให้ชัดเจน"พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าว

ภาพจาก www.fm91bkk.com