posttoday

ตร.แถลงกวาดล้างยาเสพติด11คดียึดของกลางมูลค่าเกือบ900ล้าน

03 เมษายน 2561

ผบ.ตร.แถลงผลการจับกุมยาเสพติด 11 คดี ยึดยาบ้า 1,700 เม็ด ไอซ์ 700 ก.ก. มูลค่ารวมกว่า 890 ล้านบาท แนะประชาชนแจ้งเบาะแสแหล่งพักยา

ผบ.ตร.แถลงผลการจับกุมยาเสพติด 11 คดี ยึดยาบ้า 1,700 เม็ด ไอซ์ 700 ก.ก. มูลค่ารวมกว่า 890 ล้านบาท แนะประชาชนแจ้งเบาะแสแหล่งพักยา

เมื่อวันที่ 3 เม.ย.พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. และนางชนิญญา ชัยสุวรรณ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด ร่วมกันแถลงผลสรุปการจับกุมคดีค้ายาเสพติด ในช่วงวันที่ 25 มี.ค.-1 เม.ย.61 จำนวน 11 คดี สามมารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 11 คน ของกลาง ยาบ้า 1,783,263 เม็ด ไอซ์ 703 กก. กัญชา 1,380 กก. โคเคน 671 กรัม โคคาอีน 800 กรัม ยาอี 90 เม็ด คีตามีน 0.6 กรัม รวมมูลค่ายาเสพติด 890,180,900 บาท ตรวจยึดทรัพย์สินเป็นรถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน รถยนต์ 9 คัน อาวุธปืนพร้อมกระสุน 4 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 11 เครื่อง เงินสด 87,220 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 4,943,220 บาท

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ ถือว่าได้ของกลางจำนวนมากครั้งหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจับกุมล็อตใหญ่ๆมาหลายครั้งแล้ว เป็นสิ่งบอกเหตุอย่างหนึ่งว่า ฝ่ายสืบสวนของตำรวจได้บูรณาการกำลังกับทหาร ฝ่ายปกครอง อัยการ สำนักงาน ปปง.และทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะรัฐบาลได้กำหนดเรื่องปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายไว้แล้ว ในส่วนปฏิบัติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เร่งรัดดำเนินการอย่างจริงจังมาตลอด จึงสามารถยึดของกลางได้มาก ตนคิดว่าที่ประเทศเพื่อนบ้านมีกำลังผลิตและใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน เป็นเรื่องของเขา ส่วนเราก็เดินหน้าปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นทุกครั้ง

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีความร่วมมือที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ รอง ผบ.ตร.และพล.ต.ท.สมหมาย ผบช.ปส. ได้เดินทางไปพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้านที่เกี่ยวข้องกับไทยโดยตรง เช่น พม่า ลาว และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามสกัดกั้นอย่างจริงจังตลอดซึ่งขบวนการค้ายาเสพติดที่ถูกจับได้มักจะใช้เส้นทางนี้ สำหรับเส้นทางการลำเลียง ภาคกลางถือเป็นที่พักยาเสพติด มีต้นทางคือเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งช่วงเทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่ขบวนการค้ายาเสพติดจ้องฉวยโอกาสขนของ เจ้าหน้าที่ได้หามาตรการและเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวด้วยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการตนมาแล้ว ให้เฝ้าระวังยาเสพติดอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นการตรวจที่สถานีขนส่งรถไฟ รถทัวร์ ทางเรือ ทางอากาศ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการยึดทรัพย์ที่ทำมาทุกปีและจะทำต่อไป พร้อมทำลายของกลางด้วยเมื่อคดีเสร็จสิ้น

“อยากให้พี่น้องประชาชนสร้างการรับรู้ เพราะแหล่งพักยาอยู่ใกล้ตัวท่าน บางครั้งถ้าเห็นอะไรผิดสังเกต หรือไม่ชอบมาพากล ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ทันที โดยเฉพาะตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปพิสูจน์ทราบ เรื่องยาเสพติดไม่ได้ไกลตัว ใกล้ตัวทั้งนั้น” ผบ.ตร.กล่าว

ด้าน พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวว่า ปัจจุบัน เมื่อจับยาเสพติดมาก ความขาดแคลนก็จะมีมาก แต่กำลังการผลิตไม่ได้หยุด มีการเชื่อมโยงระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ตลอดเวลา เพราะเป็นกลุ่มผู้ค้าเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงต้องผนึกกำลังทุกองค์กร โดยเฉพาะตำรวจทุกภาคและทหารทุกกองทัพภาค ยาเสพติดทุกวันนี้เริ่มออกมาจากลำน้ำโขง เนื่องจากทางกองทัพภาคที่ 3 ได้สกัดกั้นอย่างเด็ดขาด ทำให้การขนส่งยาเสพติดเป็นไปได้ยาก จึงไหลบ่าลงมาทางฝั่งประเทศลาว ลงมาถึงตอนล่างเขตรอยต่อชายแดนกัมพูชา เพื่อจะเข้ามาในประเทศไทยได้ง่ายขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ทำการสกัดกั้นอยู่

พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ยาเสพติดยังมีอยู่มาก เพราะประเทศไทยมีความเจริญขึ้น มีถนนที่สะดวก มีสนามบิน และการขนส่งทางน้ำ ทำให้ผู้ค้าเหล่านี้พยายามใช้ทุกเส้นทางที่ลำเลียงและซุกซ่อนยาเสพติดเข้ามาได้ แม้กระทั่ง ใช้สัตว์เลี้ยง บุคคล และยานพาหนะในการลำเลียงยาเข้ามา เช่น การผ่าตัวไก่แล้วนำยาเสพติดยัดใส่ตัวไก่ก่อนเย็บปิด ใส่ยาเสพติดในก้นของวัวควายที่ข้ามฟากมา เป็นต้น ทั้งนี้ กองกำลังใหญ่ที่ขนยาเสพติดเข้ามาจำนวนมาก ไม่น่ากลัวเท่าแรงงานชนกลุ่มน้อยที่เข้ามา เช่น หากมีชนกลุ่มน้อยขนยาเสพติดเข้ามา 10,000 คน แต่ตำรวจจับได้แค่ 3,000 คน ยังเหลืออีก 7,000 คน ยาเสพติดจึงไม่เคยหยุด ประกอบกับราคาที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เช่น ยาบ้าราคาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมีราคาเม็ดละ 1 บาท ถ้าเข้ามาในประเทศไทยจะมีราคาสูงถึง 200 บาท หากข้ามไปยังอีกประเทศหนึ่งราคาจะสูงถึงราคาเม็ดละ 500 บาท ส่วนยาไอซ์กก.ละ 1 ล้านบาท หากถูกส่งไปประเทศที่ 3 ราคาจะสูงขึ้น คิดเป็น 1,000 คูณกิโลกรัมที่ส่งไปได้

พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวด้วยว่า ล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมาทางทางกองทัพภาคที่ 3 ได้จับกุมไอซ์อีกกว่า 700 กก. แสดงให้เห็นว่าการผลิตยังไม่หยุด เพราะโซเดียมไซยาไนด์ ที่เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดได้เข้าไป เพราะข้อตกลงทางการค้าเสรีอนุญาตให้สารนี้ข้ามฟากได้ ซึ่งตัวสารไม่ผิดกฎหมาย เนื่องจากเป็นตัวทำละลายทอง แต่กลุ่มค้ายากลับนำไปสกัดทำเป็นยาเสพติด ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก ส่วนการขนส่งยาเสพติดนั้น จะส่งเข้ามาทางภาคเหนือ หรือมาจากทางภาคอีสาน มุ่งสู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย เพื่อออกไปสู่ประเทศมาเลเซีย ที่จะเป็นหรือศูนย์กลางกระจายยาเสพติดไปยังประเทศอื่นทั่วภูมิภาคนี้ เช่น ทางมหาสมุทรอินเดีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ บช.ปส.จึงสร้างมาตรการว่า เมื่อเราปลุกระดมเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงานที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับยาเสพติดได้จับยาแล้ว จะต้องเปลี่ยนหน้าที่ของตัวเองเป็นการติดตามยึดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ค้าและผู้ร่วมขบวนการด้วย ถ้าเราตัดวงจรส่วนนี้ไม่ได้ก็ตอบคนทั้งประเทศไม่ได้ว่าประสบความสำเร็จ ซึ่งใครมาทำหน้าที่นี้ต่อก็ต้องพัฒนา

ผบช.ปส. กล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่ามีเจ้าหน้าที่เอเอฟพีของออสเตรเลียให้ความร่วมมือกับเรา เพราะออสเตรเลียไม่สนับสนุนกฎหมายไทยในกรณีเรามีโทษประหารชีวิต ทำให้ยาเสพติดเป็นช่องว่างที่มีการส่งไปยังประเทศออสเตรเลียได้ เนื่องจากหากถูกจับก็แค่ติดคุก นอกจากนี้ประเทศเพื่อนบ้านของไทยทั้งกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ มาเลเซีย ได้ผนึกกำลังกัน ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน เราถึงมีวันนี้ เพราะได้รับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน ตนยืนยันว่านโยบายการปราบปรามยาเสพติดจะไม่เปลี่ยน แต่จะปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน เพราะต้องใช้เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การเข้าร่วมในการสอบปากคำผู้ต้องหาชาวมาเลเซียที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ โดยมีตำรวจมาเลเซียร่วมสอบด้วยก็เป็นประโยชน์ในการสอบปากคำมาก

ตร.แถลงกวาดล้างยาเสพติด11คดียึดของกลางมูลค่าเกือบ900ล้าน

ตร.แถลงกวาดล้างยาเสพติด11คดียึดของกลางมูลค่าเกือบ900ล้าน