อ.เจษฎา สงสัยบริษัทนายหน้าค้าอาวุธถูกหลอกลวงได้อย่างไร หลังศาลยกฟ้องบ.แจ็คสันฯ

อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เเสดงความคิดเห็นกรณีศาลยกฟ้องบริษัท แจ็คสันฯ ฉ้อโกงขายเครื่องตรวจวัตถุระเบิดให้กองทัพ

กรณีศาลอ่านคำพิพากษาคดีฉ้อโกงจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 คดีหมายเลขดำ อ.1768/2560 โดยตัดสินยกฟ้องกรณีบริษัท แจ็คสัน อิเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำหน่ายเครื่องตรวจวัตถุระเบิดอัลฟ่า 6 รุ่นคอมแพค จากบริษัทคอมแพค ผู้จำหน่ายในอังกฤษ ให้กับศูนย์รักษาความปลอดภัย หน่วยงานราชการสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย 8 เครื่อง เครื่องละ 1.3 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 10.4 ล้านบาท

รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เเสดงความคิดเห็นถึงกรณีว่า

"จากกรณีที่วันนี้ศาลยกฟ้องคดี "เครื่องตรวจระเบิดลวงโลก อัลฟ่า 6" ซึ่งเป็นรุ่นที่คล้ายคลึงกับเครื่อง GT200 แต่ตัวเล็กกว่า ด้วยเหตุว่า "ยังไม่มีพยานหลักฐาน น้ำหนักเพียงพอให้เชื่อได้ว่า บริษัท ฯจำเลยรู้เห็นเกี่ยวข้อง กับการจัดทำแคตตาล็อกแสดงคุณสมบัติเครื่องตรวจวัตถุระเบิด อันเป็นเท็จที่เกินจริง ...."

ผมก็เกิดคำถามขึ้นในใจทันทีเลยว่า บริษัทที่เป็นนายหน้าค้าอาวุธเนี่ย เค้าไม่จำเป็นต้องมีวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคอะไรเลยเหรอ ที่จะทำให้เราจัดหาอาวุธได้ถูกต้อง ไม่ถูกหลอกลวง

อย่างรูปพวกเนี่ย ผมเอาเอกสารการใช้เครื่อง อัลฟ่า 6 ฉบับแปลเป็นไทย มาให้ดูกันว่า แค่คนธรรมดาอ่านดูก็ต้องชะงักแล้วไม่ใช่เหรอ ว่ามีการอ้างถึง "การใช้ไฟฟ้าสถิต ไม่ต้องใช้กระแสไฟหรือแบตเตอรี่" ถ้าบริษัทมีสามัญสำนึกว่า พวกนี้มันเป็นไปไม่ได้ แต่ยังเอามาขายอยู่ ก็น่าจะแปลว่ารู้เห็นเกี่ยวข้องกับการจัดทำแคตตาล็อกที่เป็นเท็จซิ

นอกจากเรื่องการใช้พลังจากไฟฟ้าสถิตแล้ว ยังมีเรื่องการตรวจหาสารต้องสงสัย ที่จะหาเจอใน 500 เมตร ซึ่งถ้าเอาเครื่องมาตรวจสอบเพื่อเตรียมแสดงโชว์ให้เจ้าหน้าที่ดูก่อนที่จะส่งมอบกัน หรือเพื่อเอาไปสอนไปอบรมการใช้งานกันต่อไป ก็น่าจะต้องสงสัยกันซิว่าไม่เห็นมันจะหาสารได้จริงอย่างที่ว่าเลย ไม่เห็นว่ามันจะหันเสาอากาศไปเลย ... ถ้าบริษัทเคยสงสัย แต่ก็ยังเอามาขาย ยังระบุวิธีการใช้งาน ก็ต้องรู้เห็นว่าแคตตาล็อกที่แปลมาน่าจะเป็นเท็จซิ

อันนี้อาจจะมีคนแย้งว่า เอกสารพวกนี้ (ซึ่งมีคนส่งมอบให้ผมมานานมากกกกแล้ว) เป็นคนละชุดกับที่ใช้ให้การกันในศาลหรือเปล่า ก็ขอออกตัวเลยว่าไม่รู้เหมือนกันนะครับ ... เอาเป็นว่า คงต้องทำใจแหล่ะกับผลที่ออกมา เฮ้ออออออ"