posttoday

"บิ๊กป้อม"สั่งคุมเข้มลดอุบัติเหตุ7วันอันตรายสงกรานต์

23 มีนาคม 2561

พล.อ.ประวิตรเรียกประชุมขับเคลื่อนป้องกันลดอุบัติเหตุทางถนนคุมเข้มมาตรการทางกม.ช่วงสงกรานต์ 7 วันแห่งความปลอดภัย11–17เม.ย.61

พล.อ.ประวิตรเรียกประชุมขับเคลื่อนป้องกันลดอุบัติเหตุทางถนนคุมเข้มมาตรการทางกม.ช่วงสงกรานต์ 7 วันแห่งความปลอดภัย11–17เม.ย.61

เมื่อวันที่ 23 มี.ค.61 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน (นปถ.) ครั้งที่ 1/2561 เพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และการเตรียมพร้อมในการดำเนินงานในการดูแลความปลอดภัยทางถนนให้กับพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงมหาดไทย และผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

พลเอกประวิตรในฐานะประธานกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) เปิดเผยว่า อุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสำคัญ ที่สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆและเทศกาลสงกรานต์ก็ถือเป็นช่วงที่มีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าช่วงปกติ รัฐบาลจึงได้ให้ความสำคัญและกำหนดให้การสร้างความปลอดภัยทางถนนเป็นวาระแห่งชาติ โดยกำหนดให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนเป็นนโยบายสำคัญที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างจริงจังและต่อเนื่องพร้อมทั้งได้มอบหมายให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) บูรณาการขับเคลื่อนการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ภายใต้กรอบทศวรรษแห่งความปลอดปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2554-2563 ภายใต้วิสัยทัศน์มุ่งมั่นสู่มาตรฐานการสัญจรปลอดภัยด้วยกัน

ทั้งนี้ โดยให้ความสำคัญกับการยกระดับการบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนนที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านผู้ใช้รถใช้ถนน ยานพาหนะ ถนน และสิ่งแวดล้อม ภายใต้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์สำคัญ ได้แก่ 1) การปฏิรูประบบการจัดการด้านความปลอดภัยทางถนน 2)การเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน 3)ประเทศไทยขนส่งทางถนนปลอดภัย 4.0 และ 4)ประชารัฐเพื่อถนนปลอดภัย รวมทั้งพิจารณา การจัดตั้งสถาบันวิชาการด้านความปลอดภัยทางถนน และแนวทางการบูรณาการข้อมูลเพื่อใช้ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ข้อมูล 3 ฐาน) ได้แก่ ข้อมูลมรณบัตรจากกระทรวงสาธารณสุข ข้อมูล POLIS  จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและข้อมูล E-claim จากบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เพื่อให้สถิติอุบัติเหตุทางถนนของประเทศมีเอกภาพบนพื้นฐานข้อมูลเดียวกัน สำหรับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ประโยชน์ในการอ้างอิง รวมถึงใช้ประกอบการกำหนดมาตรการและแนวทางต่างๆ เพื่อให้ประเทศไทยมีการสัญจรปลอดภัยตามมาตรฐานสากลอย่างยั่งยืน

พลเอก ประวิตร กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้ คณะกรรมการ นปถ.ยังได้หารือถึงแผนการดำเนินงานในการดูแลความปลอดภัยทางถนนให้กับพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ รวมถึงมาตรการต่างๆ ที่ทุกหน่วยงานได้ร่วมกันดำเนินการ เช่นการบังคับใช้กฎหมาย มาตรการทางสังคม การอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน รวมถึงการคุมเข้มทางกฎหมาย เช่น การเพิ่มบทลงโทษ การตรวจจับความเร็ว และการเข้มงวด กวดขัน พฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งมาตรการต่างๆ เหล่านี้จะต้องช่วยกันรณรงค์ให้เกิดการรับรู้และตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน โดยจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง ควบคู่กับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน นอกจากนี้ยังให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่มาบูรณาการร่วมกันให้เป็นภาพรวมของจังหวัด และวิเคราะห์ นำเสนอ เพื่อวางแผนแก้ไขในการประชุมของจังหวัดทุกเดือน

สำหรับแนวทางและการดำเนินงานในการสร้างความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 ที่จะถึงนี้ นปถ.ได้เห็นชอบตามที่ประชุมเสนอ และได้กำชับให้หน่วยปฏิบัติการเพิ่มความเข้มข้นในช่วง 7 วันแห่งความปลอดภัย ระหว่างวันที่ 11 -17 เมษายน 2561 ภายใต้แนวคิด “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” มุ่งเน้นการลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนที่ครอบคลุมทั้งคน ยานพาหนะ ถนนและสภาพแวดล้อมต่างๆ โดยเน้นการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเข้มงวด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน

ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เพื่อให้การขับเคลื่อนการลดอุบัติเหตุทางถนนสัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมาย ได้เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันรณรงค์และดำเนินการตามมาตรการและแนวทางที่กำหนดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง รวมทั้งขอความร่วมมือกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ เกิดความตระหนัก และมีจิตสำนึกในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนร่วมกัน เพื่อให้พี่น้องประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนนได้เดินทางสัญจรอย่างปลอดภัยตลอดไป