posttoday

"เมียเปรมชัย"อ้างไม่รู้เป็นงาช้างแอฟริกา เพราะได้รับเป็นมรดก

20 มีนาคม 2561

ภรรยาเปรมชัยปฏิเสธข้อหาครอบครองงาช้างผิดกฎหมาย แจงไม่รู้เป้นงาช้างแอฟริกาเพราะได้รับเป็นมรดก เจ้าหน้าที่มั่นใจมีหลักฐานเอาผิดได้

ภรรยาเปรมชัยปฏิเสธข้อหาครอบครองงาช้างผิดกฎหมาย แจงไม่รู้เป้นงาช้างแอฟริกาเพราะได้รับเป็นมรดก เจ้าหน้าที่มั่นใจมีหลักฐานเอาผิดได้

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. เวลา 09.30 น. นางคณิตดา กรรณสูต ภรรยานายเปรมชัย พร้อม น.ส.วันดี สมภูมิ ซึ่งเป็นผู้ที่เซ็นรับรองงาช้างว่าเป็นงาช้างไทย แล้วนำไปจดแจ้งครอบครอง เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฐานมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พศ. 2535  ตามกำหนดที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกครั้งที่ 2

พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส. เปิดเผยว่า  ประเด็นหลักๆที่จะสอบปากคำเพิ่มเติม เกี่ยวกับการครองครองงาช้างโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นสิทธิการให้ปากคำของผู้ต้องหาทั้งสองราย จะให้การอย่างไรก็ได้ในชั้นพนักงานสอบสวน  ซึ่งเบื้องต้นทางตำรวจมีพยานหลักฐานพร้อมยืนยันความผิดได้ จากข้อมูลทราบว่านางวันดี เป็นผู้เซ็นรับรองงาช้างให้กับภรรยาของนายเปรมชัย ประมาณปี 2558 ส่วนงาช้างจะเป็นงาที่นำเข้าจากต่างประเทศหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบให้ชัดเจน

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้นำงาช้างที่ตรวจค้นพบในบ้านย่านบางกะปิ เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ซึ่งเป็นบ้านของนายเปรมชัยและภรรยามาตรวจสอบด้วย เพื่อให้ผู้ต้องหายืนยันว่างาช้างดังกล่าวเป็นของตนเองหรือไม่  ขณะเดียวกันนางคณิตดา ได้นำเอกสารใบอนุญาตครอบครองงาช้างให้กับพนักงานสอบสวนด้วย  ซึ่งเป็นเอกสารที่ประกอบไว้ในสำนวนแล้ว ส่วนหลังจากนี้จะให้การประกันตัวหรือไม่  ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของพนักงานสอบสวน

"เมียเปรมชัย"อ้างไม่รู้เป็นงาช้างแอฟริกา เพราะได้รับเป็นมรดก

ต่อมาเวลา 11.35 น.พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.)พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส. มาร่วมสอบสวนนางคณิตดา และน.ส.วันดี ด้วยโดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่าจากการปากคำผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การปฏิเสธ โดยนางคณิตดา อ้างว่าไม่ทราบมาก่อนว่างาช้างในครอบครองทั้งสี่กิ่ง เป็นงาช้างแอฟริกา  จึงนำงาช้างทั้งหมดไปจดแจ้งกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯว่าเป็นช้างบ้านของประเทศไทย อีกทั้งงาช้างทั้งหมดยังได้รับเป็นมรดกตกทอดมาจากญาติ ไม่สามารถหาเอกสารมายืนยันการมอบมรดกดังกล่าวได้

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลตามคำให้การของผู้ต้องหาพบว่า เจ้าของงาช้างที่มอบเมื่อปี พ.ศ.2524 ได้เสียชีวิตไปแล้ว  และจากการตรวจสอบปีที่มอบให้ เท่ากับคดีขาดอายุความไปแล้ว  โดยมีอายุความ 20 ปี แต่ผู้ต้องหาไม่สามารถนำประเด็นดังกล่าวมาโต้แย้งได้  เพราะไม่มีเอกสารสำแดงยืนยันการนำเข้าจากกรมศุลกากร และจากเจ้าของเดิม 

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการประสานกับกรมศุลกากร ให้เข้ามาตรวจสอบงาช้างทั้งหมด ว่ามีการแจ้งนำเข้าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าไม่มีการนำเข้าถูกต้องก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติมตามพรบ.การนำเข้าของกรมศุลกากรต่อไป

ส่วนกรณีที่ น.ส.วันดี  ผู้ต้องหาอีกหนึ่งคนให้การปฏิเสธว่า ไม่ทราบงาช้างของนางคณิตา เป็นงาช้างแอฟริกา  เพราะนางคณิตดามีเอกสารถูกต้องครบถ้วน ในส่วนนี้นายบัญญัติ ฉายอรุณ ผู้อำนวยการส่วนคุ้มครองสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ชี้แจงว่า กรมอุทยานฯ เปิดให้ประชาชนนำงาช้างเข้าจดทะเบียนตามพรบ.งาช้างในปี 2558 ซึ่งขณะนั้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีผู้นำงาช้างเข้าจดแจ้งจำนวน 12,000 ราย  โดยมีทั้งผู้ที่นำงาช้างมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในระหว่างการจดแจ้ง และอีกส่วนหนึ่งมีการนำภาพถ่ายมาใช้ประกอบการจดแจ้งซึ่งกรณีของนางคณิตา ใช้การจดแจ้งผ่านภาพถ่ายและเอกสารครบ แต่นางคณิตดา ยังไม่ได้รับใบใบอนุญาตครอบครองอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากยังไม่ได้รับการตรวจสอบงาช้างดังกล่าวว่าเป็นงาช้างบ้านของไทยตามที่มีการจดแจ้งไว้หรือไม่

นอกจากนี้ยังชี้แจงอีกว่ากรณีของนางคณิตดา เข้าข่ายความผิดใน 2 พ.ร.บ. คือ 1 พ.ร.บ.งาช้างพ. ศ. 2558 ซึ่งนางคนิตดา นำงาช้างแอฟริกาไปจดแจ้งว่าเป็นช้างบ้านของไทย ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง มีความผิดตามพ.ร.บ. ดังกล่าว มีโทษยึดงาช้างให้ตกเป็นของแผ่นดิน แต่ไม่มีโทษปรับหรือโทษจำคุก 

ส่วนความผิดที่ 2 เข้าข่ายตามพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ. ศ. 2535 คือมีซากสัตว์หรืองาช้างแอฟริกาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปีปรับไม่เกิน 40,000 บาท ซึ่งในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ส่วนจะเข้าข่ายการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จหรือไม่ ต้องกลับไปปรึกษากับผู้บังคับบัญชาก่อน และต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน ก่อนเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนของ ปทส.

จากนั้นเวลา 13.45 น.นางคณิตดากับนางวันดี พร้อมทนายความเดินทางไปศาลอาญารัชดา โดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด นอกจากนี้ทางพนักงานสอบสวนเตรียมนัดหมายให้นายเปรมชัย มาพบพนักงานสอบสวน บก.ปทส.ในวันที่ 21 มี.ค.อีกครั้งเพื่อสอบสวนปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็นทีททางพนักงานอัยการต้องการ