ผู้การกองปราบฯยันไม่เคยบังคับ "แผน" พยานหวย30ล้าน เปลี่ยนคำให้การ

ผู้บังคับการกองปราบฯยืนยันเจ้าหน้าที่ไม่เคยบังคับ "นายแผน" พยานคดีหวย30ล้านเปลี่ยนคำให้การ เพราะเป็นผู้สอบปากคำด้วยตัวเอง

เมื่อวันที่ 13 มี.ค. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีลอตเตอรี่รางวัลที่1 มูลค่า 30 ล้านบาท กรณีที่นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือแผน ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้เห็น ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ก้มเก็บลอตเตอรี่ เข้าร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ บังคับให้กลับคำให้การและข่มขู่ว่าจะต้องถูกจับติดคุกแน่ หากไม่ยอมกลับคำให้การ ว่า  นายแผน ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ 2 ของคดี หรือ กลุ่มพยานบุคคลในสำนวน ซึ่งเมื่อพิจารณาจากคำให้การเดิมในสำนวนของ ตำรวจภูธรภาค 7 นั้นพบว่า เป็นการให้การเท็จ จึงได้มีการออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 15 มี.ค.ที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ในวันนี้ทางด้านพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวก็ได้มีการลงพื้นที่สอบปากคำพยานเพิ่มเติมใน จ.กาญจนบุรี จึงได้ถือโอกาสนำหมายเรียกดังกล่าวไปให้แจ้งให้นายแผนรับทราบ

พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวต่อว่า กรณีที่นายแผนไปร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆนั้นก็เป็นสิทธิ์ของเจ้าตัว และขอยืนยันว่าทางกองปราบฯไม่เคยบังคับหรือข่มขู่ให้นายแผนเปลี่ยนคำให้การแต่อย่างใด

"ในวันที่มีการเชิญตัวนายแผนมาให้ปากคำที่สถานีตำรวจทางหลวง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ผมเป็นผู้สอบปากคำเอง ทาง พล.ต.ท.ฐิติราช ไม่ได้เป็นผู้สอบ และห้องที่ใช้สอบปากคำนั้นก็เป็นห้องวิทยุเล็กของสถานี จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 30 นายเข้าไปกดดัน แค่อยู่ในห้อง 5 คนก็แน่นห้องแล้ว จึงขอยืนยันว่าไม่มีการบังคับใดๆทั้งสิ้น ซึ่งกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น ส่วนตัวไม่หนักใจ เพราะทุกคนตั้งใจทำหน้าที่และปฏิบัติหน้าที่ตามแบบแผนความถูกต้อง"พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิดกล่าว