posttoday

"อัจฉริยะ"ยื่นกองปราบฯขอให้เอาผิด "เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา"

13 มีนาคม 2561

ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมร้องกองปราบขอให้เอาผิด "เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา" โพสต์ข้อความใส่ร้ายเจ้าหน้าที่

ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมร้องกองปราบขอให้เอาผิด "เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา" โพสต์ข้อความใส่ร้ายเจ้าหน้าที่

เมื่อวันที่ 13 มี.ค. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) เพื่อยืนหนังสือร้องทุกข์ขอให้มีการเอาผิดกับ นายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ,ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน จากกรณีที่มีการโพสต์วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจกองปราบในคดีลอตเตอรี่รางวัลที่1 มูลค่า  30 ล้านบาท

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า การเดินทางมาเข้าพบตำรวจกองปราบในวันนี้ก็เพื่อต้องการให้ตำรวจกองปราบฯเอาผิดแก่ นายเทอดศักดิ์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางคดีของนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา จากกรณีที่ได้มีการโพสต์ข้อความใส่ร้ายอันเป็นเท็จแก่ตำรวจกองปราบ ที่ทำคดีโดยเนื้อหาข้อความที่ นายเทิดศักดิ์ โพสต์ในเฟซบุ๊กระบุว่า "ตลอดช่วงเวลาที่ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา  และ น.ส.รัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ เจ๊บ้าบิ่น ถูกเจ้าหน้าทีตำรวจควบคุมตัวอยู่นั้นได้มีการบีบบังคับให้ทั้งคู่ยอมรับสารภาพ หากรับสารภาพโทษจะเบาลงไม่กระทบต่อตำแหน่งข้าราชการของครูปรีชา แต่ทั้งครูปรีชาและเจ๊บ้าบิ่น ก็ยังคงยีนกรานตามคำให้การเดิม"

"เรื่องดังกล่าวทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจกองปราบฯ และเสียหายต่อภาพลักษณ์ขององค์กร"นายอัจฉริยะกล่าว

พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวหลังพบ นายอัจฉริยะ ว่า ได้มีการแบ่งกลุ่มผู้เกี่ยวข้องออกเป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกเป็นกลุ่มบุคคลที่ใกล้ชิดกับเรื่องราว คือ ครูปรีชา และเจ๊บ้าบิ่น ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มของพยาน ซึ่งก็ได้มีการดำเนินการไปในส่วนหนึ่ง และส่วนกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มกองเชียร์หรือกลุ่มบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องแต่มีการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจ ซึ่งในส่วนนี้ก็ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาคอยตรวจสอบความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ข้อความทางสื่อสังคมออนไลน์ การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างๆ ซึ่งทางคณะทำงานเมื่อได้รับข้อมูลแล้วก็จะมาพิจารณาว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายทำให้องค์กรตำรวจเสียหายหรือไม่

พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของนายเทอดศักดิ์ ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่พอทราบข้อมูลมาบ้างแล้ว ซึ่งเรื่องราวที่นายเทอดศักดิ์กล่าวอ้างนั้นไม่เป็นความจริง จึงจำเป็นต้องมีการดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีของหน่วยงาน ส่วนจะดำเนินการในข้อหาอะไรนั้นคงต้องพิจารณาให้แน่ชัดก่อนว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดใดบ้าง ซึ่งหลังจากนี้อาจจะมอบหมายส่งตัวแทนเข้าร้องทุกข์แจ้งความดำเนินการตามกฎหมายต่อไป