posttoday

เปิดความเห็นพนักงานสอบสวนส่งฟ้อง"เปรมชัย-พวก" คดีล่าเสือดำ

13 มีนาคม 2561

รายละเอียดความเห็นพนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการ ทองผาภูมิ สั่งฟ้อง "เปรมชัย และพวก" ใน 9 ข้อหา

รายละเอียดความเห็นพนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการ ทองผาภูมิ สั่งฟ้อง "เปรมชัย และพวก" ใน 9 ข้อหา

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีที่นายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวกล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ของสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ ให้กับสำนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ โดยมี นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 และ นายทะนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นผู้รับสำนวน

สำหรับรายละเอียดคดีดังกล่าวเป็น คดี ระหว่างนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ผู้กล่าวหา นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 นางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 โดยกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 4 คนว่า

1.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

2.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

3.ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

4.ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

5.ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมาย

6.ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

7.ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

8.ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

9.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และโดยไม่มีเหตุอันสมควร

เหตุเกิดระหว่างวันที่ 4-6 ก.พ. 2561 ที่ตำบลชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ชั้นสอบสวนพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาที่ 1 ถึง 9 แก่ผู้ต้องหาทั้งสี่แล้ว ผู้ต้องหาทุกคนให้การปฏิเสธ ส่วนข้อกล่าวหาที่ 10 พนักงานสอบสวนไม่ได้แจ้งข้อกล่าวกับผู้ต้องหาทั้งสี่

พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนเสนอพนักงานอัยการ ดังนี้

1.เสนอเห็นควรสั่งฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ผู้ต้องหาที่ 1 ข้อหาที่ 1 ถึง 8 และเห็นควรสั่งฟ้อง ในข้อหาที่ 9 เฉพาะข้อหาพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร

ส่วนข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เห็นควรสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากอาวุธปืนของกลางเป็นของนายเปรมชัย ที่ได้รับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองโดยชอบตัวกฎหมายและเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง นายเปรมชัย ในข้อหาร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เพราะเห็นว่า การกระทำไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย

2. เห็นควรสั่งฟ้อง นายยงค์ โดดเครือ ผู้ต้องหาที่ 2 นางนที เรียมแสน ผู้ต้องหาที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ ผู้ต้องหาที่ 4 ตามข้อกล่าวหาที่ 1 ถึง 9 ทุกข้อกล่าวหาและเห็นควรสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 2 ถึง 4 ในข้อหาร่วมกันการะทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เพราะเห็นว่า การกระทำไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย

ด้าน สำนักงานอัยการภาค 7 เห็นว่า คดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั่วไป ผู้ต้องหาเป็นผู้มีชื่อเสียงในสังคม สื่อมวลชนติดตามและนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง และ กลุ่มองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองพิทักษ์สัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ ได้ติดตามการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นคดีสำคัญ

เพื่อให้การพิจารณาคดีนี้เป็นไปโดยรอบคอบ รวดเร็วและโปร่งใส  นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อร่วมกันพิจารณาดำเนินคดีนี้ ประกอบด้วย นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา2 ภาค 7 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน นายทนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ คณะทำงาน,พ.ต.ท.อำนาจ สุจริตชัยรองอัยการจังหวัดกาญจนบุรี คณะทำงานและนายกฤษฎา ชูโต รองอัยการจังหวัดทองผาภูมิ คณะทำงานและเลขานุการ

เมื่อคณะทำงานพิจารณาและมีความเห็น เสนออธิบดีอัยการดภาค 7 มีคำสั่งทางคดีเรียบร้อยแล้ว สำนักงานอัยการสูงสุดจะได้แถลงให้ทราบในโอกาสต่อไป วันนี้พนักงานสอบสวนไม่ได้ส่งผู้ต้องหาทั้ง 4 มาพร้อมสำนวน เนื่องจากผู้ต้องหาได้มีการฝากขังไว้ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิแล้ว โดยจะครบฝากขังครั้งที่ 4 ในวันที่ 25 มี.ค.นี้

ด้าน นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 กล่าวว่า อัยการสูงสุดสั่งการให้พิจารณาคดีนี้อย่างรอบคอบโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อให้ประชาชนเชื่อถือ และมั่นใจในองค์กรอัยการ ส่วนกรณีที่บางคน หรือสื่อบางสำนักยังไม่รู้ข้อเท็จจริงแล้ววิพากษ์วิจารณ์ว่าอัยการจะมีการดองสำนวนนั้น ไม่เป็นความจริง ซึ่งจะมีการเร่งรัดทุก 7 วัน