posttoday

"หัวหน้าห้องแล็บ" ยันตร.กองพิสูจน์หลักฐานตรวจดีเอ็นเอก่อนอุทยานฯ

11 มีนาคม 2561

ดร.กณิตา อุ่ยถาวร ยืนยันวัตถุพยานชิ้นที่ตรวจพบดีเอ็นเอ ผ่านการตรวจโดยตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานมาก่อนเเล้ว

ดร.กณิตา อุ่ยถาวร ยืนยันวัตถุพยานชิ้นที่ตรวจพบดีเอ็นเอ ผ่านการตรวจโดยตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานมาก่อนเเล้ว

กรณีพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานหลังลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุอีกครั้ง พบมีดพก 2 เล่มในที่เกิดเหตุ มีดีเอ็นเอเสือดำบนมีด แต่คิดว่าไม่น่าจะใช่อาวุธที่ใช้ชำแหละและหั่นกระดูกเสือดำ

เเละจากการสอบถามไปยังกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ได้รับรายงานว่าได้รับมีดพกและมีดอีโต้มาตรวจแล้ว (ขาดเขียง) ผลตรวจระบุว่ามีการปนเปื้อนจากสารเคมีที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ใช้ตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอเสือดำตั้งแต่ครั้งแรก ทำให้การตรวจดีเอ็นเอบุคคลไม่ชัดเจน เพราะถูกทำลายไป จึงไม่พบดีเอ็นเอที่ตรงกับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน

ต่อมา ดร.กณิตา อุ่ยถาวร หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า ของกรมอุทยานฯ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Kanita Ouitavon” ชี้แจงรายละเอียดการตรวจดีเอ็นเอจากวัตถุพยานในคดีล่าสัตว์ป่า ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับดีเอ็นเอของนายเปรมชัย กับพวก โดยยันว่าหากทางตำรวจตรวจใหม่เพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 2 ก็สามารถพบได้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ดร.กณิตา ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้ง โดยมีข้อความระบุว่า

“หลักฐานวัตถุพยาน ได้แก่ มีด จำนวน 6 เล่ม และชิ้นส่วนเขียง 1 ชิ้น ที่เกี่ยวข้องกับคดีรายนายเปรมชัย กรรณสูต ที่ได้มีการส่งคืนให้กับตำรวจ บก.ปทส. แล้วเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2561 เวลาประมาณ 17.20 น. (ส่งมอบคืน ณ หน่วยปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า) เพื่อนำส่งต่อให้กับตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเพิ่มเติมละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

โดยเฉพาะในวัตถุพยานชิ้นที่ตรวจพบดีเอ็นเอของเสือดำ (จะเห็นว่าที่ซองบรรจุวัตถุพยานแต่ละชิ้นได้เขียนคำว่า “ตรวจแล้ว” ซึ่งหมายถึงผ่านการตรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือและดีเอ็นเอของมนุษย์โดยตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานมาครั้งหนึ่งแล้ว ก่อนหน้าที่จะส่งมาให้แล็บของกรมอุทยานฯ ตรวจพิสูจน์เพื่อหาดีเอ็นเอสัตว์ป่า)”