posttoday

ชงปลดล็อคกม.ให้ราชทัณฑ์ตั้งโรงพยาบาลสังกัดยธ.ย่านงามวงศ์วาน

06 มีนาคม 2561

เสนอปลดล็อคกฎหมายให้ราชทัณ์ฑ์ตั้งโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงยุติธรรมขนาด 200เตียง ดูแลผู้ป่วยนอก-ข้าราชการ ยธ.

เสนอปลดล็อคกฎหมายให้ราชทัณ์ฑ์ตั้งโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงยุติธรรมขนาด 200เตียง ดูแลผู้ป่วยนอก-ข้าราชการ ยธ.

พล.ต.ท.วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่และคณะผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจได้ร่วมประชุมกับผู้บริหารโรงพยาบาลราชทัณฑ์โดยมีนายแพทย์วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เข้าร่วมเพื่อให้คำแนะนำและร่วมหาแนวทางการพัฒนาระบบการรักษาพยาบาลของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เพื่อยกระดับการรักษาพยาบาลและปรับปรุงงานรักษาพยาบาลให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

พล.ต.ท.วิฑูรย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาโรงพยาบาลตำรวจและโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ให้การดูแลรักษาผู้ต้องขังอย่างเป็นระบบด้วยการส่งต่อผู้ต้องขังที่เป็นผู้ป่วยหนักหรือผู้ป่วยระยะสุดท้ายรวมทั้งผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลเฉพาะทางทั้งแบบไปกลับและนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลจากสภาพบรรยากาศภายนอกที่ล้อมรอบโรงพยาบาลทัณฑสถานเห็นว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะขยายงานด้านการรักษาพยาบาลบุคคลภายนอกและข้าราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมจึงอยากเสนอให้กระทรวงยุติธรรมตั้งโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงยุติธรรมเพื่อให้บริการบุคคลากรและคนทั่วไป เช่นเดียว กับโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งให้บริการข้าราชการตำรวจกว่า 200,000คนและบุคคลภายนอก ซึ่งต่อไปจะมีการผลิตแพทย์ร่วมกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เนื่องจากจากรพ.ตำรวจไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะผลิตแพทย์และพยาบาลเองได้ดังนั้นหากโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีการขยายงานหรือตั้งโรงพยาบาลก็จะมีแพทย์รองรับการทำงานของรัฐได้เพียงพอ

พล.ต.ท.วิฑูรย์ กล่าว ว่า พื้นที่ย่านนี้มีความเหมาะสมบรรยากาศดีและมีบริเวณกว้างขวาง  มีที่จอดรถจำนวนมากหากสร้างโรงพยาบาลก็ไม่ต้องไปหาพื้นที่ใหม่นอกจากนี้เส้นถนนงามวงศ์วานและถนนแจ้งวัฒนะไม่ทีโรงพยาบาลของรัฐยกเว้นโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ที่เพิ่งมีการขยายในบริเวณศูนย์ราชการ

แต่เท่าที่ทราบ ปัญหาของโรงพยาบาลราชทัณฑ์คือข้อกฎหมายที่ระบุให้รักษาได้เฉพาะผู้ต้องขังเท่านั้นจึงเห็นว่าหากต้องการขยายงานก็ต้องแก้ไขข้อกฎหมายก่อนซึ่งขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและงบประมาณ

อย่างไรก็ตามหากมีการตั้งเป็นโรงพยาบาลก็จะมีการควรแยกส่วนพื้นที่ออกจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ที่รักษาผู้ต้องขังเช่น ให้มีศูนย์ล้างไต ศูนย์ตรวจสุขภาพครบวงจรและให้รองรับผู้ป่วยได้จำนวน 200เตียงนอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อข้าราชการของกระทรวงฯจำนวนมากเพราะไม่ต้องเสียเวลารอรับการรักษาจากโรงพยาบาลภายนอก

“การแก้ไขกฎหมายขยายอำนาจหน้าที่เป็นสิ่งที่ดีโดยขณะนี้กรมราชทัณฑ์มีคลินิคที่เปิดให้บริการบุคคลภายนอกอยู่แล้วจึงเชื่อว่าสามารถขยายเป็นโรงพยาบาลได้ไม่ยากทั้งนี้โรงพยาบาลตำรวจพร้อมให้คำปรึกษาและเป็นพี่เลี้ยงให้เพราะที่ผ่านมาโรงพยาบาลราชทัณฑ์ส่งต่อผู้ป่วยโรคร้ายแรงมาที่โรงพยาบาลตำรวจมาโดยตลอด”พล.ต.วิฑูรย์กล่าว

ด้านนพ.วีระกิตติ์  กล่าวว่า การขยายขอบเขตการรักษาบุคคลภายนอกเป็นเป้าหมายในระยะยาวซึ่งสามารถรับผู้ป่วยที่ใช้ระบบประกันสังคมและระบบประกันสุขภาพได้ ซึ่งการขยายขอบเขตการรักษาไปยังผู้ปวยนอกเพื่อต้องการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์และบุคลากรให้เกิดผลคุ้มค่าเพราะการใช้รักษาเฉพาะผู้ต้องขังอย่างเดียวใช้ประโยชน์ได้น้อย

ส่วนพื้นที่ที่เหมาะสมจะขยายเป็นโรงพยาบาลของกระทรวงยุติธรรมคือบริเวณชวนชมอาเขต ติดกับบริเวณถนนงามวงศ์วาน  ซึ่งพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกำชับให้ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นสถานพยาบาลชั้น 1 สำหรับผู้ต้องขังที่ป่วย แต่ตนเห็นว่าการจะเป็นโรงพยาบาลชั้น 1ต้องมีการขยายการรักษาไปยังประชาชนทั่วไปด้วย

สำหรับข้อสรุปที่ได้จากการประชุมในวันนี้จะนำเสนอต่ออธิบดีกรมราชทัณฑ์ปลัดกระทรวงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้พิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ข้อมูลจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ระบุว่าปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่เข้ารับการรักษาในรพ.ทัณฑสถานฯอันดับ 1 ป่วยด้วยโรคมะเร็ง โรคติดเชื้อต่างๆ  โรคหลอดเลือดหัวใจและโรคเอดส์  ซึ่งโรงพยาบาลสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 200-500เตียงโดยแต่ละปีมีการส่งผู้ต้องขังไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจกว่า 1,000รายโดยในปี 2560 ส่งผู้ป่วยไปรักษาทั้งแบบไป-กลับและนอนค้างประมาณ 5,000ราย