posttoday

ครูปรีชาถาม "หมวดจรูญ" หาคนที่ขายลอตเตอรี่ให้เจอหรือยัง

25 กุมภาพันธ์ 2561

ครูปรีชา ถามกลับ หมวดจรูญ หาตัวแม่ค้าที่ขายลอตเตอรี่ให้ได้หรือยัง พร้อมฝากขอบคุณทนายตั้ม เก็บความห่วงใยไว้ดูแลตัวเองดีกว่า

ครูปรีชา ถามกลับ หมวดจรูญ หาตัวแม่ค้าที่ขายลอตเตอรี่ให้ได้หรือยัง พร้อมฝากขอบคุณทนายตั้ม เก็บความห่วงใยไว้ดูแลตัวเองดีกว่า

เมื่อวันที่ 25 ก.พ. เวลา 09.45 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักของ นายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี คู่กรณีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์สลากรางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ใน ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดย นายปรีชา เดินออกมาบริเวณรั้วประตูบ้าน พร้อมแจ้งว่า วันนี้ของดให้สัมภาษณ์โดยขอตัวไปทำธุระส่วนตัว โดยจะไปดูสวนปาล์ม และยางพารา รวมทั้งบ่อเลี้ยงปลา ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่คาบเกี่ยวระหว่างอำเภอบ่อพลอย - อำเภอห้วยกระเจา

ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. นายปรีชาได้ยอมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยเปิดเผยว่า อยากฝากผู้สื่อข่าวไปถาม ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญว่า หาคนที่ขายลอตเตอรี่ให้กับตัวเองได้หรือยัง ซื้อที่ไหน ขายที่ไหน คนขายคือใคร เพราะจนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีแม่ค้าคนใดออกมาแสดงตนว่าขายให้กับ ร.ต.ท.จรูญ และฝากขอบคุณที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความฝ่ายร.ต.ท.จรูญที่เตือนด้วยความหวังดี แต่ในทางนิตินัยตนมองว่าการกระทำในลักษณะเช่นนี้เป็นการข่มขู่

"ขอขอบคุณ ทนายตั้ม ที่เป็นห่วงเป็นใย แต่ขอให้ห่วงใยตัวเองก่อนแล้วกัน ขณะที่ที่ผ่านมาผมไม่เคยเตือนอีกฝ่ายแต่อย่างใด ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรจะให้เกียรติซึ่งกันและกัน สำหรับการมีคดีความเป็นเรื่องของความขัดแย้งของคนสองคน ทนายตั้ม ก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ทำไมถึงรู้ดี"นายปรีชากล่าว

นายปรีชากล่าวอีกว่า ในส่วนของหลักฐานตนไม่ขอนำมาเปิดเผยผ่านสื่อ แต่ตนจะนำไปแสดงในชั้นศาล ซึ่งนายษิทรา เป็นนักกฎหมายก็ควรจะทราบในเรื่องนี้ และไม่ควรใช้โพสต์ผ่านสื่อเพื่อมอมเมาประชาชนเช่นนี้ ทั้งๆ ที่ตอนนี้ทุกคนควรจะรอผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งในวันที่ 28 ก.พ. ที่จะถึงนี้ ทาง ผบ.ตร.ก็จะออกมาแถลงข่าวในเรื่องนี้อยู่แล้ว

การที่ทาง ผบช.ก.ออกมาระบุว่า ให้โอกาสคนที่รู้ตัวว่าทำผิดได้กลับตัวกลับใจก่อนที่จะสรุปผลการสอบสวนนั้น ตนยืนยันเหมือนเดิมว่า ตนไม่ได้ทำผิดอะไร และเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนมี และเชื่อมั่นว่าตนซื้อลอตเตอรี่จริง ขณะเดียวกันตนก็เชื่อมั่นว่าทางตำรวจก็ทำงานด้วยความยุติธรรม

ทั้งนี้ตนสบายใจที่ความจริงในเบื้องต้นจะได้ปรากฏในเร็วๆ นี้ ความจริงก็คือความจริง ซึ่งเราหลีกหนีความจริงไปไม่พ้น แต่การที่จะรู้ว่าใครถูกใครผิดก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการศาล

ส่วนกระแสโจมตีตนในโซเชียลนั้น ตนเข้าใจ และเชื่อว่าสักวันบุคคลเหล่านั้นจะเข้าใจเอง โดยตนใช้หลักของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์บอกว่ามนุษย์ให้เดินทางสายกลาง มัชฌิมาปฏิปทาคือไม่ตึงเกินไป ไม่หย่อนเกินไป แล้วเมื่อมีสติก็จะเกิดปัญญา สติของเราต้องควบคุมตัวเอง กายกับจิตต้องแยกออกจากกัน กายมีเรื่องของคดีความ จิตเป็นจิตที่เป็นครู ตนต้องเป็นพ่อพิมพ์ของชาติ ดังนั้นจิตกับกายที่ดีงาม จะมารวมกันเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ได้

ส่วนกรณีการโยกย้ายนายตำรวจ 3 นาย นายปรีชา กล่าวว่า เหตุเป็นเพราะครูได้ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หาย ทำให้ ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี กับ 2 นายตำรวจต้องโดนย้ายไปช่วยราชการ ตนก็ต้องกราบขอโทษด้วย ที่ทำให้ท่านต้องเดือดร้อน ซึ่งตนเชื่อว่าตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา แต่มีเหตุผลต้องโอนสำนวนไปให้ตำรวจกองปราบทำ ซึ่งตนก็ให้ความร่วมมือมาโดยตลอด

"เชื่อว่าตำรวจต้องพิสูจน์หลักฐานให้ครบถ้วน หากครบแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ ก็จะแถลงข่าวว่า น้ำหนักจะไปอยู่ฝ่ายใด ใครน่าจะเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ในเบื้องต้น ดังนั้นผลจะเป็นฝ่ายใดก็ตามก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการศาล เพื่อให้ศาลพิสูจน์จากหลักฐานบางอย่างอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากตำรวจแถลงผลการสอบสวนออกมาแล้ว ผมก็พร้อมให้ความร่วมมือ

"ในส่วนของเจ๊บ้าบิ่น ยังไม่ได้พูดคุยกัน แต่หากมีลอตเตอรี่เหลือในแต่ละงวด ก็จะติดต่อมาหาเพื่อให้ผมช่วยซื้อ ของจริงไม่ต้องพูดอะไรมาก ยืนยันไปตามความจริง ตอนนี้เจ๊บ้าบิ่นก็ไม่ได้ออกมาขายของ คงเบื่อนักข่าว เห็นติดป้ายภาษาอังกฤษไว้หน้าบ้าน"

"ที่ผมไม่ได้รู้สึกเครียด เพราะของจริง แล้วจะไปกลัวอะไร"นายปรีชากล่าว

ครูปรีชาถาม "หมวดจรูญ" หาคนที่ขายลอตเตอรี่ให้เจอหรือยัง

ครูปรีชาถาม "หมวดจรูญ" หาคนที่ขายลอตเตอรี่ให้เจอหรือยัง