"อัศวิน" ขีดเส้น 7 วันตลาดต้องทำให้ถูกต้อง

พล.ต.อ.อัศวิน สั่งเจ้าของตลาดในหมู่บ้านเสรีวิลล่าดำเนินการให้ถูกต้องใน 7 วัน-เผยไม่ทำถูกดำเนินการตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าฯกทม. นายธนสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการเขตประเวศ และผู้บริหารกทม.ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 37/208 ซ.ศรีนครินทร์ 55 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. เพื่อมาพูดคุยและทำความเข้าใจกับ น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ เจ้าของบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการตั้งตลาดในพื้นที่

ผู้ว่าฯกทม.ได้เดินไปกดกริ่งหน้าบ้านพักของ น.ส.บุญศรีด้วยตัวเอง เพื่อขอพบเจ้าของบ้านหรือตัวแทน ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่บ้านเพราะเจ้าของบ้านเดินทางไปให้สัมภาษณ์สื่อมวลจน จากนั้นพล.ต.อ.อัศวิน ได้โทรหาน.ส.บุญศรี เพื่อให้แจ้งความประสงค์และความช่วยเหลือที่เจ้าของบ้านต้องการต่อกทม. โดยได้มีการเจรจาระหว่างกันผ่านโทรศัพท์ประมาณ 5 นาที พร้อมเปิดเสียงผ่านลำโพงโทรศัพท์ให้สื่อมวลชนรับทราบพร้อมกัน

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า “ตอนนี้ผมอยู่หน้าบ้านคุณป้าศรีเพื่อมาขอพูดคุย ขณะนี้มีใครอาศัยอยู่ในบ้านหรือไม่ หรือตัวแทนเพื่อพูดคุย โดยวันนี้กทม.อยากเดินทางมาเยี่ยมว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นมากแค่ไหน เพราะทราบจากทางสื่อมวลชนจึงอยากมาพูดคุยถึงวัตถุประสงค์หรือความต้องการ และลงพื้นที่มาดูข้อเท็จจริง พร้อมขจัดความเดือดร้อนว่ากทม.สามารถแก้ไขปัญหาหรือเยียวยาเจ้าของบ้านได้อย่างไรบ้าง วันนี้ก็พาสื่อมวลชนมาด้วย อยากจะมากินน้ำสักแก้ว แต่เจ้าของบ้านไม่อยู่ (หัวเราะ)”

ด้านนางบุญศรี กล่าวว่า “1.ตลาดในบริเวณนั้นมีเยอะมาก อยากให้ผู้ว่าฯกทม.ช่วยนำตลาดที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างอาคารและจัดตั้งตลาดอย่างถูกต้องตามกฎหมายออกไป เพราะที่ผ่านมารบกวนผู้อยู่อาศัยโดยรอบ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 2.อยากให้ดำเนินการให้รวดเร็วที่สุด และ 3.หากนำตลาดออกแล้วไม่อยากให้มีการก่อสร้างตลาดขึ้นอีก เพราะบริเวณนี้เป็นพื้นที่อยู่อาศัย ประชาชนต้องการความสงบและพักผ่อน เพราะกทม.มีพื้นที่ว่างอีกมาก และพื้นที่นี้ไม่ใช่พื้นที่พาณิชย์ อีกอย่างมันเกิดขึ้นมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่เขตและผู้ว่าฯกทม.คนเดิมก็ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหา ขอให้ผู้ว่าฯกทม.คืนความสงบสุขให้กับชุมชนด้วย”

พล.ต.อ.อัศวิน ได้ตอบรับว่า “หลังจากนี้กทม.จะนำไปพิจารณาตามเหตุผลว่า จะสามารถดำเนินการได้มากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม กทม.ขอยืนยันว่าสิ่งที่คุณบุญศรี เดือดร้อน กทม.จะพยายามปัดเป่าความเดือดร้อนให้เร็วที่เท่าที่จะทำได้ อย่าไปพูดถึงอดีตที่มันชอกช้ำระกำใจ พูดไปก็เจ็บใจเปล่าๆ เอาตั้งแต่วินาทีเป็นต้นไป ผมจะช่วยดำเนินการให้ ส่วนใดแล้วไปแล้วอย่าไปพูดถึงมัน กทม.จะหาทางแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต”

จากนั้นพล.ต.อ.อัศวิน ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนลงพื้นที่ไปสำรวจตลาดทั้ง 5 แห่งที่อยู่บริเวณโดยรอบ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ตลาดโดยรอบบริเวณ ประกอบด้วย ตลาดทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่

1.ตลาดสวนหลวง1 ได้ก่อสร้างอนุญาตก่อสร้างอาคาร แต่ไม่ได้ขออนุญาตประกอบกิจการตลาดตามกฎหมาย ดังนั้น เมื่อไม่ได้ขออนุญาตจัดตั้งตลาดตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าของอาคารได้เสียภาษีหรือไม่

2.ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต และ 3.ตลาดยิ่งนรา ได้ขออนุญาตก่อสร้างอาคารเป็นเชิงพาณิชย์ ถามว่าขายของอะไรก็ได้ใช่หรือไม่ ตอบว่าใช่ แต่ต้องปฎิบัติตามกฎข้อบังคับ

4.ตลาดรุ่งวาณิชย์ ไม่มีใบอนุญาตก่อสร้างตามพ.ร.บ.อาคาร 2522 และจัดตั้งกิจการตลาดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สาธารณสุข 2535 เช่นเดียวกัน

5.ตลาดร่มเหลือง เป็นตลาดนัดที่รื้อแล้ว แต่กลุ่มผู้ค้ากลับมาขายใหม่

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า ปัจจุบันศาลมีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราว ดังนั้นกทม.ต้องขจัดปัดเป่าสิ่งเดือดร้อนให้เจ้าของบ้าน เช่น เสียงรบกวน มีกลิ่น ควัน แสงกระทบ ฯลฯ โดยตลาดที่ 2 และ 3 อยู่ระหว่างฟ้องร้องคดีกับศาล ส่วนนี้กทม.จะไม่เข้าไปก้าวล่วงจนกว่าศาลจะมีคำสั่งหรือตัดสิน ส่วนตลาด 1, 4 และ 5 กทม.จำเป็นต้องสั่งระงับการขายทันที โดยกทม.จะออกบันทึกแจ้งให้กลุ่มผู้ค้าเตรียมตัวออกจากตลาด เนื่องจากอาคารไม่ได้รับอนุญาตก่อสร้างอาคารและจัดตั้งตลาดอย่างถูกกฎหมาย

"อย่างไรก็ตาม การสั่งให้หยุดขาย กทม.ไม่สามารถสั่งการได้ทันที เพราะผู้ค้ารื้อไม่ทัน เราต้องมีเหตุผล จะสั่งให้รื้อเดี๋ยวนี้ทันทีไม่ได้ ต้องมีเหตุผล แต่ว่าการจะให้ชาวบ้านย้ายออกจะต้องบอกล่วงหน้า ทั้งนี้ การอนุญาตให้ก่อสร้างตามพ.ร.บ.ผังเมือง ระบุไว้ว่าสามารถจัดสร้างอาคารอะไรก็ได้ เพียงแต่ขออนุญาตให้ถูกต้อง ซึ่งตลาดเปิ้ลมาร์เก็ตได้ก่อสร้างเป็นอาคารพาณิชย์ก็สามารถขออนุญาตได้"พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว

ทั้งนี้ กทม.ยืนยันว่าไม่ได้กำหนดโซนสีใหม่ ปัญทุกอย่างตนเชื่อว่ามันแก้ไขได้ ยกเว้นจะไม่ได้รับการแก้ไข

เมื่อถามว่าทางกทม.ได้เห็นรายชื่อเจ้าของอาคารแล้วหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่เห็นรายชื่อของเจ้าของตลาด กทม.จะไม่ยึดตัวบุคคล จะเป็นของใครก็ช่าง แต่กทม.จะบังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง และเจ้าของอาคารจะต้องทำตามระเบียบและข้อบังคับตามกฎหมาย

ส่วนความกังวลว่าผู้ค้าจะเคลื่อนไหวหลังกทม.สั่งหยุดการขายนั้น กทม.จำเป็นต้องพูดกับผู้ค้า ซึ่งกทม.อาจจะพิจารณาหาพื้นที่ขายของใหม่ หากถามว่ากังวลหรือไม่ที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่ามีกลุ่มอิทธิพลหนุนหลังอยู่ "ไม่มีหรอก ไม่กังวลหรอก เพราะผมนี้แหละ มีอิทธิพล" 

จากนั้นพล.ต.อ.อัศวิน และคณะผู้บริหารได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมตลาดทั้ง 5 แห่ง พร้อมขอพูดกับเจ้าของอาคาร ซึ่งวันนี้บรรยากาศตลาดเป็นไปอย่างเงียบเหงา บางตลาดทำการปิดตลาดหยุดการขาย หลังทราบว่าจะมีผู้บริหารเดินทางมาตรวจเยี่ยม

ต่อมาเวลา11.10 น. พล.ต.อ.อัศวิน และคณะผู้บริหารได้แถลงข่าวหลังการตรวจเยี่ยมพื้นที่ตลาดทั้ง 5 แห่ง โดยมีพ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผู้กำกับสน.ประเวศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย

พล.ต.อ.อัศวิน แถลงว่า ได้มอบหมายให้ ผู้อำนวยการเขตประเวศออก ทำหนังสือแจ้งไปยังเจ้าของตลาด พร้อมกับตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจะเชิญเจ้าของตลาด กลุ่มผู้ค้า ประชาชนในหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ ตั้งแต่วันที่ 22- 28 กุมภาพันธ์ เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม สำหรับตลาดรุ่งวาณิชย์ และตลาดร่มเหลือง พบว่าไม่ได้มีการขออนุญาตก่อสร้างอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งไม่สามารถทำได้ และต้องยุติการดำเนินการ ขณะที่ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต และตลาดยิ่งนรา มีการขออนญาตก่อสร้างสำหรับทำการค้าเชิงพาณิชย์ ซึ่งทางกทม.จะเป็นผู้พิจารณาข้อกฎหมาย ว่าสามารถค้าขายสินค้าลักษณะที่ดำเนินการอยู่ได้หรือไม่ คาดว่าจะได้ผลสรุปภายใน 7 วัน

สำหรับตลาดสวนหลวงนั้น พบว่ามีการขออนุญาตก่อสร้างอาคารถูกต้อง แต่ไม่ได้ขออนุญาตประกอบกิจการตลาด ซึ่งทางสามารถสั่งปิดได้ แต่ทางเราจะให้เจ้าของตลาดชี้แจงเหตุผลว่าเหตุใดจึงไม่มีการขออนุญาตประกอบกิจการ ก่อนกำหนดแนวทางการดำเนินการต่อภายหลังได้ข้อสรุปแล้ว หากมีเจ้าของตลาดที่ไม่ปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนด ทางกทม.จะแจ้งความเอาผิดที่สน.ประเวศ ก่อนฟ้องศาลแขวงพระขโนง เพื่อเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุด วันละ 5,000 บาททุกวัน และหากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า มีเจ้าหน้าที่ของกทม. กระทำความผิด ก็จะมีการลงโทษตามระเบียบราชการต่อไป