posttoday

ภาครัฐต้องเร่งแก้ฝุ่น หนุนล้อมคอกปัญหาควันรถ

19 กุมภาพันธ์ 2561

จากการตรวจวัดค่าปริมาณฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ การก่อสร้างอาคารสูง และมลพิษจากไอเสียรถยนต์

โดย...ทีมข่าวในประเทศโพสต์ทูเดย์

5 พื้นที่หลักที่ถูกประกาศแจ้งเตือนค่าปริมาณฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานใน กทม. ประกอบด้วย 1.เขตบางนา 2.เขตวังทองหลาง 3.ริมถนนอินทรพิทักษ์4.ริมถนนพระราม 4 และ 5.ริมถนนลาดพร้าว สาเหตุสำคัญเพราะบริเวณดังกล่าวมีการก่อสร้างอาคาร รวมถึงเป็นแหล่งจราจรคับคั่ง ทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงหากสูดฝุ่นละอองเข้าไปโดยไม่สวมหน้ากากป้องกัน

วุฒินันท์ ญาณวารี ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตวังทองหลาง กล่าวว่า สาเหตุหลักของปัญหาฝุ่นควันเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่เขตวังทองหลาง เกิดจากการจราจรหนาแน่น มีการเผาไหม้ของยานพาหนะจำนวนมากสะสมในช่วงเวลาที่การจราจรติดขัด เนื่องจากตลอดเส้นทางถนนลาดพร้าวมีพื้นที่ค่อนข้างแคบ ทำให้ควันพิษสะสมปกคลุมตลอดทั้งวัน อีกทั้งเตรียมมีการสร้างรถไฟฟ้า คาดว่าหากเริ่มก่อสร้างจะมีปัญหาเรื่องฝุ่นดินทรายเพิ่มมากขึ้น

มาตรการลดมลภาวะทางอากาศที่สำนักงานเขตเฉพาะหน้าคือ เพิ่มความถี่ลงพื้นที่ล้างถนนให้บ่อยครั้ง ซึ่งโดยปกติมีการล้างถนนเป็นประจำทุกสัปดาห์อยู่แล้ว แต่เมื่อวัดค่าปริมาณฝุ่นละอองในช่วงนี้จึงต้องเพิ่มการล้างถนนเป็นล้างวันเว้นวัน ซึ่งหากมีฝนตกลงมาด้วยจะเป็นการชะล้างฝุ่นในอากาศได้มากขึ้นตามไปด้วย

นวพร กลิ่นบัวแก้ว ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กล่าวว่า จากการตรวจวัดค่าปริมาณฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่เขตปทุมวันเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ การก่อสร้างอาคารสูง และมลพิษจากไอเสียรถยนต์

แนวทางแก้ปัญหาได้กำชับเจ้าหน้าที่ล้างทำความสะอาดถนนทุกวันในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งระดับมลพิษในย่านปทุมวันจะขึ้นลงตามสถานการณ์ เช่น ช่วงที่การจราจรติดขัด เนื่องจากมีประชาชนเดินทางมายังห้างสรรพสินค้าเป็นจำนวนมาก แต่จะลดลงในเวลากลางคืนเพราะการจราจรเบาบาง ส่วนปัญหาฝุ่นจากการก่อสร้างอาคารสูงได้กำชับให้หน่วยเฉพาะกิจคอยดูแลควบคุม ให้ใช้ผ้าใบปกปิดอาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง รวมถึงเข้มงวดรถบรรทุกวิ่งเข้าออกพื้นที่ก่อสร้างไม่ให้มีเศษดิน โคลน ร่วงหล่นบนถนนโดยเด็ดขาด

สุจิตรา บุญสำราญ แม่ค้าส้มตำริมถนนลาดพร้าว กล่าวว่า ตั้งแต่ขายอาหารริมทางมา 5 ปี ช่วงก่อนหน้านี้บริเวณริมถนนลาดพร้าวมีปัญหาฝุ่นละอองบ้างพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไรนัก เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ เมื่อได้พูดคุยกับกลุ่มลูกค้าประจำหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าฝุ่นควันจากรถยนต์ส่งผลกระทบต่อร่างกายมากเพราะต้องสูดดมเข้าไปทุกวัน บางคนมีอาการเวียนหัวเพราะควันรถ

“เราเป็นแม่ค้าก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่สูดดมและหาผ้ามาปิดปากปิดจมูก ทุกวันนี้ขายของไม่ค่อยได้ด้วย เพราะบางครั้งเศษฝุ่นปลิวมาลงอาหาร ทำให้ลูกค้าไม่กลับมาซื้อของกินอีก อยากให้บ้านเมืองมีความสะอาดกว่านี้ อยากให้ภาครัฐหรือผู้เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหา เราเห็นปัญหาแบบนี้ทุกวัน รู้ว่ามลพิษมันเพิ่มมากขึ้น ไม่แน่อาจต้องมองหาทำเลขายของใหม่ที่ไม่มีปัญหาในลักษณะนี้”สุจิตรา กล่าว

สุชาย โชคชัยสันติ เจ้าของร้านอะไหล่ยนต์ย่านปทุมวัน กล่าวว่า เท่าที่ สังเกตบริเวณนี้มีปัญหาเรื่องฝุ่นละอองจากเขตก่อสร้างเป็นหลัก เพราะกำลังมีการสร้างอาคารสูงทำให้มีเสียงดังจากเครื่องจักร และพวกรถบรรทุกมักฉวยโอกาสขับออกมาจากไซต์งานทำให้มีดินติดล้อรถออกมาบนถนนเป็นจำนวนมาก เมื่อเศษดินเหล่านี้แห้งแตกกระจายจะยิ่งฟุ้งจนแทบหายใจไม่ออก จึงอยากให้ทางสำนักงานเขตเข้มงวดกับบริษัทเอกชนให้ระมัดระวังฝุ่นจากการก่อสร้างมากกว่านี้

ขณะที่ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหาร ศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “ปัญหามลพิษและฝุ่นละออง ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล” พบว่า  58% เห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนมาก 35% เร่งด่วน 5% ไม่เร่งด่วน ด้านการได้รับผลกระทบจากปัญหามลพิษและฝุ่นละออง 61% ได้รับผลกระทบ เนื่องจากทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยง่ายขึ้น 38% ระบุว่าไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากพักอาศัยในเขตที่ไม่มีฝุ่นละออง

แนวทางในการแก้ปัญหาฝุ่นละออง พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ 23% ต้องการให้จัดการจราจรให้ดีกว่าเดิม ไม่ให้เกิดปัญหารถติด รองลงมา 15% ควบคุมมาตรฐานและตรวจวัดค่าฝุ่นละอองในที่มีการก่อสร้าง ไม่ให้ค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน 14% ระบุว่า รณรงค์ลดการใช้รถส่วนตัว หันมาใช้การเดินทางด้วยขนส่งมวลชน 11% ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชน ปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้น เพื่อดูดซับและลดผลกระทบจากมลพิษในอากาศ 8% อนุมัติการก่อสร้างขนาดใหญ่ ให้เริ่มสร้างทีละโครงการ ทีละจุด ไม่เริ่มก่อสร้างพร้อมๆ กัน 7% ระบุว่า ทำฝนหลวง 7% เพิ่มบทลงโทษและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในการควบคุมการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน 4% ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนทราบถึงสาเหตุและอันตรายที่เกิดจากมลพิษและฝุ่นละออง