สำรวจท้องทะเลตรังพบฝูงพะยูน-โลมา-เต่าทะเลอีกเพียบ
ศูนย์วิจัยฯทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งบินสำรวจพบพะยูนท้องทะเลตรัง พบฝูงพะยูนกว่า200ตัว โลมา เต่าทะเลอีกเพียบ
ศูนย์วิจัยฯทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งบินสำรวจพบพะยูนท้องทะเลตรัง พบฝูงพะยูนกว่า200ตัว โลมา เต่าทะเลอีกเพียบ
ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้ส่งนักวิชาการกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก นำโดย นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน พร้อมเจ้าหน้าที่ นักบินชาวต่างชาติ นำเครื่องบินเล็ก มาบินสำรวจประชากรพะยูนในทะเลตรัง ในระหว่างวันที่ 12 – 16 ก.พ.
โดยการนำจำนวนประชากรพะยูนที่พบในแต่ละเที่ยวบินมาคิดคำนวณตามหลักวิชาการ เพื่อหาค่าเฉลี่ยประชากรพะยูนที่เหลืออยู่ ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลทางวิชาการอีกด้านหนึ่งใช้เป็นประโยชน์ในการอนุรักษ์ให้พะยูนคงอยู่ในทะเลตรังตลอดไป เพราะพะยูนฝูงใหญ่ที่สุดของประเทศไทยอยู่ที่จังหวัดตรัง บริเวณแหล่งหญ้าทะเล ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง นับจากบริเวณหัวแหลมเกาะมุกด์ – เกาะตะลิบง ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง
นายก้องเกียรติ เปิดเผยว่า ปีนี้บินสำรวจ พบว่าประชากรเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี รวมไม่ต่ำกว่า 210 ตัว โดยฝูงใหญ่ที่สุดพบมากกว่า 30 ตัว โดยมีคู่แม่ลูกอยู่ในฝูงประมาณ 10 คู่ แต่ภาพรวมมีคู่แม่ลูกรวมประมาณ 42 คู่ และยังพบโลมาอีกประมาณ 19 ตัว แม่ลูกประมาณ 2 คู่ , เต่าทะเลประมาณ 57 ตัว โดยปีที่แล้วการบินพบพะยูนประมาณ 169 ตัว คู่แม่ลูกมากกว่า 10 คู่ ความหนาแน่นของประชากรพะยูนที่เพิ่มสูงขึ้นในทะเลตรัง เกิดขึ้นจากความร่วมมือของชาวบ้านในชุมชนที่ประกอบอาชีพทำประมง ที่ให้ความร่วมมือไม่ใช้เครื่องมือที่เป็นอันตรายกับสัตว์ทะเลหายาก ทั้ง พะยูน โลมา และเต่าทะเล และความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในจังหวัดตรัง ทำให้พบซากพะยูนเกยตื้นตายน้อยลงในปี 2560 เพียงจำนวน 6 ตัว และพบพะยูนมีชีวิตอีก 3 ตัว ซึ่งปีหน้า เชื่อหากเราสามารถควบคุมการตายด้วยเครื่องมือประมงได้ พะยูนในทะเลตรังจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 240 – 250 ตัว