รัฐบาลย้ำให้ความสำคัญกับเด็ก-ผู้สูงอายุต้องไม่จนก่อนแก่
“บิ๊กฉัตร” เผย เด็กไทยเกิดน้อยลงทุกปี สวนทางผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญ “เด็ก-ผู้สูงอายุ” เป็นวาระสำคัญของชาติ คนชราต้องไม่จนก่อนแก่
“บิ๊กฉัตร” เผย เด็กไทยเกิดน้อยลงทุกปี สวนทางผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญ “เด็ก-ผู้สูงอายุ” เป็นวาระสำคัญของชาติ คนชราต้องไม่จนก่อนแก่
เมื่อวันที่ 14 ก.พ.เวลา 09.00 น.ที่ห้องคริสตัลบอลรูม โรงแรมตวันนา สุรวงศ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทรวงสาธารณสุข กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) หน่วยงานรัฐ และเอกชน ร่วมกันจัดงาน “สานงานพลังเพื่อ”อนาคตของประเทศไทย:ยุคเด็กเกิดน้อยสังคมสูงวัย” โดยมีพล.อ ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน และกล่าวตอนหนึ่งว่า สถิติการเกิดของเด็กไทยในแต่ละปีลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปี 2555 มีเด็กเกิดใหม่ ประมาณ 7.8 แสนคน ในปี 2559 พบว่าการเกิดลดลงเหลือ 6.6 แสนคน และคาดว่าในปี 2583 จะมีเด็กเกิดใหม่เกินเพียง 5 แสนคน จึงต้องมีการพัฒนา เพราะเด็กคือนาคตของชาติต้องให้ความสำคัญ ขณะที่ผู้สูงอายุมีร้อยละ 18 ของประชากรทั้งหมดของประเทศ และคาดว่าในอีก 2-3 ปีจะเพิ่มเป็นร้อยละ20 ขณะเดียวกันปัญหาที่พบคือ 1 ใน 3 ของผู้สูงอายุจะมีรายได้ไม่ถึง 3 หมื่นบาทต่อปี และ 60 เปอร์เซ็นต์เป็นโรคความดันและเบาหวาน จึงเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาลที่จะต้องมีมาตรการรับมือ
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้มีการกำหนดมาตรช่วยส่งเสริม คือ 1.สร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพให้ประชาชน 2.พัฒนาระบบบริการสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพก่อนแต่งงาน และหลังคลอดลูก 3. ส่งเสริมบทบาทหญิงชายเลี้ยงช่วยกันเลี้ยงลูก 4.ปรับทัศนคติมุมมองเชิงบวกเรื่องการมีลูก แทนการมองว่าเป็นภาระ 5. สนับสนุนมาตรการทางภาษีเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายดูแลลูก และ6.พัฒนารวมถึงขยายสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือศูนย์เด็กเล็กให้มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยลดภาระระหว่างทำงาน ขณะที่ผู้สูงอายุก็ต้องส่งเสริมให้มีการออม ขอชื่นชมแนวคิดไม่จนก่อนแก่ ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว และในวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ขอให้ทุกคนมีความรักต่อกัน และมีความรักต่อครอบครัวด้วย