posttoday

"ศรีวราห์" ลั่นคดี "เปรมชัย" วิ่งเต้นไม่ได้

08 กุมภาพันธ์ 2561

ผบ.ตร. ยันไม่มีกังวลการทำคดีนายเปรมชัย แม้เป็นนักธุรกิจใหญ่เพราะทุกคนอยู่ใต้กฎหมาย-รอง ผบ.ตร.ยันคดีนี้วิ่งเต้นไม่ได้

ผบ.ตร. ยันไม่มีกังวลการทำคดีนายเปรมชัย แม้เป็นนักธุรกิจใหญ่เพราะทุกคนอยู่ใต้กฎหมาย-รอง ผบ.ตร.ยันคดีนี้วิ่งเต้นไม่ได้

เมื่อวันที่ 8 ก.พ.  พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การสอบสวนขยายผลคดี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกที่ร่วมกันครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองนั้น ว่าตำรวจจะเร่งสอบสวนขยายผลทุกประเด็น ทั้งการครอบครองซากสัตว์ในกรณีอื่นๆ พฤติกรรมการเดินทางเข้าพื้นที่ทุกครั้งก่อนถูกจับ รวมถึงประเด็นการได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ให้นายเปรมชัย และคณะเข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุกครั้งที่ผ่านมา

หากพบการทำผิดเชื่อมโยง หรือมีส่วนร่วมกับการกระทำความผิด ตำรวจจะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น พร้อมยืนยันว่า ตำรวจไม่มีความกังวล แม้นายเปรมชัย จะเป็นนักธุรกิจใหญ่ ทุกคนอยู่ใต้กฎหมายเดียวกันหมด ส่วนจะขยายผลถึงใครบ้างนั้น เรื่องนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ทราบดีว่า ต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง เชื่อว่าการดำเนินการจะชัดเจนอย่างแน่นอน

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ มาสอบสวนประเด็นการติดสินบนเจ้าพนักงาน ว่าใครเป็นผู้ติดสินบน ส่วนจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้หรือไม่ ต้องรอสอบปากคำเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ก่อน ขณะเดียวกันจะมีการสอบปากคำเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมว่า เพราะเหตุปล่อยให้กลุ่มนายเปรมชัย เข้าพื้นที่

ส่วนอาวุธปืน 43 กระบอก ที่ยึดได้ในบ้านพักของนายเปรมชัย ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้องทุกกระบอกหรือไม่ เพราะบางกระบอกยังไม่ได้หลักฐาน อย่างไรก็ตามเรื่องทะเบียนอาวุธปืนเป็นอำนาจของฝ่ายปกครองตนไม่สามารถก้าวล่วงได้ พร้อมยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีอุปสรรคใดๆ แม้ไม่มีประจักษ์พยานยืนยันว่าใครเป็นผู้ที่ยิงสัตว์ แต่จากพยานหลักฐานขณะนี้ก็มีความชัดเจน ที่ผ่านมาตำรวจมีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆในคดี ทั้งดีเอ็นเอ เขม่าดินปืน เพียงพอที่จะฟ้องดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้แล้ว โดย ผบ.ตร.กำชับให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ยืนยันคดีนี้วิ่งเต้นไม่ได้

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า นายเปรมชัย ขณะนี้ยังอยู่ในประเทศ ไม่ได้หายตัวไปไหนและยังติดต่อได้ ส่วนจะมีออกหมายเรียกมาพบพนักงานสอบสวนเมื่อใด ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ สำหรับกรณีที่ปรากฏภาพหนังเสือโคร่งในห้องทำงานของนายเปรมชัย จากการเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ไม่พบหนังเสือดังกล่าวแล้ว แต่เท่าที่ทราบภาพถ่ายดังกล่าวถ่ายไว้เมื่อกว่า 20 ปีก่อน หากเจอหนังเสือคดีก็ขาดอายุความไปนานแล้ว ส่วนเรื่องงาช้าง 2 คู่ที่พบในบ้านนายเปรมชัย ส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่งาช้างไทย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จดทะเบียนไม่ได้ ขณะนี้ส่งตรวจดีเอ็นเอแล้ว เพื่อตรวจสอบว่างาช้างดังกล่าวเป็นช้างไทยหรือช้างแอฟริกัน

ที่มา Policenews