posttoday

จ่อจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีก100คน

03 กุมภาพันธ์ 2561

ตำรวจเตรียมออกหมายจับเพิ่ม 100 คน ร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำหน้าที่เปิดบัญชีให้ เผยสถานการณ์ดีขึ้น เร่งติดตามอีก 2-3 กลุ่ม

ตำรวจเตรียมออกหมายจับเพิ่ม 100 คน ร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำหน้าที่เปิดบัญชีให้ เผยสถานการณ์ดีขึ้น เร่งติดตามอีก 2-3 กลุ่มพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า สถานการณ์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขณะนี้ถือว่าเบาบางลง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันกวาดล้างขบวนการดังกล่าวอย่างจริงจัง มีการทลายเครือข่ายรายสำคัญที่ประเทศมาเลเซีย ที่หลอกคนไทยในประเทศไทย รวมทั้งประสาน กสทช.บล็อกเบอร์โทรศัพท์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรหลอกประชาชนจ่อจับแก๊งคอลฯอีก100คน
ตำรวจเตรียมออกหมายจับเพิ่ม 100 คน ร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำหน้าที่เปิดบัญชีให้ เผยสถานการณ์ดีขึ้น เร่งติดตามอีก 2-3 กลุ่ม

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า สถานการณ์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขณะนี้ถือว่าเบาบางลง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันกวาดล้างขบวนการดังกล่าวอย่างจริงจัง มีการทลายเครือข่ายรายสำคัญที่ประเทศมาเลเซีย ที่หลอกคนไทยในประเทศไทย รวมทั้งประสาน กสทช.บล็อกเบอร์โทรศัพท์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรหลอกประชาชน

ทั้งนี้ เตรียมเสนอขอศาลอนุมัติหมายจับคนไทยที่รับจ้างเปิดบัญชีให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีอีกกว่า 100 คน

"ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งบางส่วนหนีไปต่างประเทศ ทำให้จำนวนคนร้ายลดน้อยลง สถิติการจับกุมก็ลงตามไปด้วย ขณะนี้เหลืออยู่ประมาณ 2-3 กลุ่มเท่านั้นที่ต้องสืบสวนจับกุม และประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศเดียวและประเทศแรกที่สามารถอายัดและคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้จำนวนมาก" พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าว

นอกจากนี้ ตำรวจได้เสนอไปยังรัฐบาลให้ออกกฎหมายควบคุมสกุลเงินดิจิทัลที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ช่องทางนำเงินไปลงทุน โดยโอนเข้าระบบสกุลเงินบิตคอยน์ โดยได้ประสานกับ 5 บริษัทตัวกลางบิตคอยน์ในประเทศไทย เพื่อช่วยตรวจสอบและอายัดก่อนที่เงินจะถูกโอนไปยังต่างประเทศ เพราะหากเงินถูกโอนเข้าสู่ระบบกลางในต่างประเทศจะไม่สามารถอายัดได้ ฉะนั้นเหยื่อที่รู้ตัวว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ที่สายด่วน 1155 และ 1710

นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า สถิติแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งแต่การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ปปง. มีผู้แจ้งผ่านสายด่วน ปปง. 1710 ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 2560 จนถึงวันที่ 1 ก.พ. 2561 มีผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินจำนวน 210 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย 81 ล้านบาท สามารถยับยั้งและช่วยเหลือได้จำนวน 33 ราย มูลค่า 15 ล้านบาท