posttoday

"หญิงไก่"เจอคุกอีก 7 ปี! ศาลตัดสินคดีหมิ่นเบื้องสูงสำนวนสอง

29 มกราคม 2561

ศาลจำคุก "หญิงไก่" คดีหมิ่นเบื้องสูงสำนวนที่ 2 อีก 7 ปี 6 เดือน เจ้าตัวขอรับสารภาพ ศาลตัดสินคุก 3 กระทง พฤติการณ์ร้ายแรงไม่รอลงอาญา

ศาลจำคุก "หญิงไก่" คดีหมิ่นเบื้องสูงสำนวนที่ 2 อีก 7 ปี 6 เดือน เจ้าตัวขอรับสารภาพ ศาลตัดสินคุก 3 กระทง พฤติการณ์ร้ายแรงไม่รอลงอาญา

เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ห้องพิจารณา 911 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐานคดีหมายเลขดำ อ.3592/2560 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางมณตา หรือไก่ หยกรัตนกาญ อายุ 61 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีระหว่างปลายปี 2553 - กลางเดือน 2558 จำเลยได้พูดกับ น.ส.กาบแก้ว ไม่ทราบนามสกุล หญิงชาวลาว ทำนองว่า ตนเป็นคุณหญิง มีผู้ใหญ่เคยพาไปอยู่ในวัง เป็นผู้ใกล้ชิดเบื้องสูงซึ่งล้วนเป็นเท็จ

ซึ่งระหว่างพิจารณาคดี นางมณตาถูกคุมขังอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากถูกตัดสินจำคุกในคดีค้ามนุษย์ และคดีหมิ่นเบื้องสูงที่สมอ้างเป็นคุณหญิงใกล้ชิดชนชั้นสูง วันนี้ศาลจึงได้เบิกตัว นางมณตา มาฟังคำพิพากษา

ขณะที่เมื่อถึงเวลานัด นางมณตาหจำเลย ได้แถลงต่อศาลขอให้การใหม่ เป็นการรับสารภาพ ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาคดีในช่วงบ่ายวันนี้

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว เห็นว่า การกระทำของจำเลย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวม 3 กระทง จึงพิพากษาให้จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 15 ปี คำให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 7 ปี 6 เดือน และเมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่สมควรรอการลงโทษ

และวันเดียวกันนี้ ที่ห้องพิจารณา 812 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลก็นัดตรวจหลักฐานคดี นางมณตาแจ้งความเท็จอีกสำนวน คดีหมายเลขดำ อ.3311/2560 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในความผิดฐานแจ้งความเท็จ กรณีระหว่างวันที่ 18 - 20 มี.ค.58 จำเลยได้แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่นว่า นางประภาพร หรือจูน ทองเฟื้อง, นายชูเกียรติ หรือเกียรติ ใจกล้า และ น.ส.ประภาวรรณ หรือก้อย ใจกล้า ซึ่งเป็นสาวใช้ในบ้าน ได้ร่วมกันลักทรัพย์เป็นทองคำแท่งหนักแท่งละ 10 บาท จำนวน 40 แท่ง ราคา 8 ล้านบาท , สร้อยคอทองคำ 2 เส้น ราคา  380,000 บาท , นาฬิกาข้อมือ 4 เรือน ราคา 1.1 ล้านบาท , แหวนเพชร 2 วง ราคา 940,000 บาทเศษ , แหวนทับทิมฝังเพชร ราคา 180,000 บาท , กระเป๋าเดินทาง  2 ใบ ราคา 6,000 บาท และกระเป๋าถือราคา 6,000 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 10,625,804 บาท เพื่อให้ทั้งสามต้องรับโทษทางอาญา โดย นางมณตาจำเลยให้การปฏิเสธ

โดยคดีนี้ เมื่อถึงเวลานัดทนายความของ นางมณตา จำเลย ได้แถลงต่อศาลขอเลื่อนการนัดตรวจหลักฐานไปก่อน เนื่องจากเพิ่งเข้ามารับคดี ศาลพิจารณาแล้วก็อนุญาตให้เลื่อนนัดตรวจหลักฐานไปเป็นวันที่ 12 มี.ค.นี้ เวลา 13.30 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นางมณตา ขณะนี้นับได้ว่าถูกตัดสินจำคุกแล้วรวม 3 คดี คือ คดีหมิ่นเบื้องสูงวันนี้ หมายเลขดำ อ.3592/2560 จำคุก 7 ปี 6 เดือนที่จำเลยขอรับสารภาพ

คดีค้ามนุษย์สำนวนแรก หมายเลขดำ คม.76/59 ศาลอาญา มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 11 ต.ค.59 ให้จำคุก 3 ปี และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกับเด็กสาวผู้เสียหาย เป็นเงิน 590,007 บาทจากกรณีต้นเดือน มิ.ย.49 – ปลายเดือน ต.ค.53 ได้หลอกเด็กสาว 3 รายจาก จ.ปทุมธานี และ จ.แม่ฮ่องสอน มาทำงานแม่บ้านบังคับใช้แรงงานตั้งแต่เวลา 05.00 น. – 23.00 น. โดยไม่มีวันหยุด และไม่จ่ายค่าจ้าง แล้วยังข่มขู่ผู้เสียหายหากไม่ยอมทำงานก็จะแจ้งตำรวจ จับบิดา-มารดา ซึ่งศาลเห็นว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดเพียงรายเดียว คือ เด็กสาว จาก จ.แม่ฮ่องสอน

และคดีหมิ่นเบื้องสูง สำนวนแรก หมายเลขดำ อ. 3186/2559 ศาลอาญา มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.60 จำคุกรวม 3 กระทง เป็นเวลา 7 ปี 6 เดือนที่จำเลยขอกลับคำให้การเป็นรับสารภาพเช่นกัน รวมเวลาจำคุกทั้ง 3 คดีนี้ เป็นเวลา 17 ปี 12 เดือน

โดยมีเพียงคดีเดียวที่ศาลยกฟ้อง คือ คดีค้ามนุษย์สำนวนที่ 2 หมายเลขดำ คม.98/2559 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 29 พ.ย.59 จากกรณีระหว่างต้นเดือน พ.ค.51- 30 พ.ย.53 จำเลยได้ชักชวนให้ เด็กสาวผู้เสียหายวัย 16 ปีเศษ จาก จ.แม่ฮ่องสอน มาทำงานบ้านให้