posttoday

เจ้าของอู่ขอโทษคู่กรณีทุกความไม่พอใจ-แจงเหตุไม่รุนแรงอย่างที่วิจารณ์

29 มกราคม 2561

พรนิรันด์ เลิศธีรพงศ์ เจ้าของอู่ขอโทษคู่กรณีหลังเกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท พร้อมชี้เเจงทุกประเด็นความไม่พอใจ

พรนิรันด์ เลิศธีรพงศ์ เจ้าของอู่ขอโทษคู่กรณีหลังเกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท พร้อมชี้เเจงทุกประเด็นความไม่พอใจ

จากกรณีที่สมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพหญิงสาวใบหน้ามีร่องรอยฟกช้ำ โดยอ้างว่า ถูกพนักงานอู่ย่านพหลโยธินทำร้าย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นจากผู้ชายที่อ้างตัวว่าเป็นผู้จัดการอู่ซ่อมรถ พูดจาไม่ดีจึงมีปากเสียงกัน ก่อนจะมีผู้ชายมาช่วยล็อกตัวแม่กับหญิงสาวทำให้โดนต่อยซ้ำ

หญิงสาวบอกว่า ภายหลังเกิดเหตุ วันรุ่งขึ้นนำรถออกจากอู่ พบว่าฝากระโปรงรถถูกกรีด และมีร่องรอยถูกน้ำมันเบรคหรือน้ำยาบางอย่างเทราดฝากระโปรงรถจนได้รับความเสียหาย

กระทั่งเวลาต่อมาได้มีทหารยศพันเอกโทรมาหาหญิงสาวและบอกว่าเป็นญาติกับทางอู่ซ่อมรถ โดยได้พูดจาข่มขู่ แต่เพราะทางพ่อน้องผู้เสียหายเป็นทหารยศสูงกว่า จึงพูดจาดีด้วยทันที และทำเป็นไกล่เกลี่ยขอให้จบเรื่อง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ม.ค. นายพรนิรันด์ เลิศธีรพงศ์ เจ้าของอู่ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเกิดจากฝั่งคู่กรณีได้ส่งรถยี่ห้อเมอซิเดสเบนซ์ มาซ่อมที่อู่เมื่อวันที่ 5 ม.ค.61 โดยทางอู่ได้ประเมินค่าซ่อมราคา 150,000 บาท ซึ่งเกินวงเงินประกันไป 50,000 บาท เพราะรถคู่กรณีทำประกันประเภท 2 เอาไว้ จึงแจ้งให้เจ้าของรถเข้ามาเจรจาตกลง

จนเมื่อวันที่ 25 ม.ค.61 แม่ลูกได้เข้ามาที่อู่ เเละเกิดมีปากเสียงกับพนักงานของอู่ เหตุการณ์ค่อนข้างชุลมุน มีการทะเลาะวิวาทและกระทบกระทั่งกันจริง เเต่ยืนยันว่าไม่มีการรุมทำร้ายเเละไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของทั้งสองฝ่าย รวมถึงไม่ได้มีความรุนเเรงตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน ขณะเดียวกันพนักงานของตนก็ได้รับบาดเจ็บเช่นคู่กรณี

ทั้งนี้ความไม่พอใจของอีกฝ่ายคาดว่าเกิดจากความล่าช้า เพราะต้องรออนุมัติจากประกันภัยก่อนจึงจะดำเนินการซ่อมได้

ส่วนประเด็นเรื่องมีทหารโทรไปข่มขู่ผู้หญิงนั้น ขอชี้แจงว่า ทหารคนดังกล่าวคืออาของตน โทรไปเจรจาของให้ทุกอย่างจบไม่ได้ข่มขู่

นายพรนิรันด์ กล่าวว่า สภาพร่องรอยความเสียหายของรถยนต์คู่กรณีเกิดขึ้นตั้งเเต่ก่อนเข้ารับบริการ ทางอู่มีภาพถ่ายเป็นหลักฐานชัดเจน และขอยืนยันว่าไม่มีทางสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นในลักษณะกลั่นเเกล้งกันอย่างเเน่นอน

อย่างไรก็ตามตนเองพร้อมจะขอโทษคู่กรณีต่อความไม่พอใจกับการให้บริการเเละเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด

"ผมพร้อมขอโทษทุกอย่างที่ทำให้เขาไม่พอใจ เเต่ยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นการทำร้ายหรือกลั่นเเกล้งกันแน่นอน"

"อู่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานทั้งสองฝ่าย คือ ทางประกันภัยและเจ้าของรถ เนื่องจากประกันชั้น 2 มีค่าซ่อมรถส่วนเกินที่ลูกค้าควรตกลงกับทางประกันก่อนอู่จึงซ่อมตามใบเคลมได้ อย่างไรก็ตามทางอู่รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขออภัยลูกค้า"

สำหรับความคืบหน้าทางคดีเบื้องต้นหลังเกิดเหตุทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าไปแจ้งความฐานทำร้ายร่างกายที่ สน.บางซื่อ โดยพนักงานสอบสวนให้ทั้งคู่ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย หลังจากนี้จะนัดหมายเข้ามาให้ปากคำเพื่อสอบถามรายละเอียดที่เกิดขึ้น

 

เจ้าของอู่ขอโทษคู่กรณีทุกความไม่พอใจ-แจงเหตุไม่รุนแรงอย่างที่วิจารณ์