posttoday

ออกหมายจับ"เสี่ยกำพล"เจ้าของวิคตอเรียฯโดนอ่วม12ข้อหาค้ามนุษย์ เร่งสอบโยงจนท.

20 มกราคม 2561

ตำรวจมอบสำนวนค้ามนุษย์ 3,500 หน้าให้ดีเอสไอแล้ว เตรียมใช้ข้อมูลชำระบัตรเครดิตโยงบัญชีส่วยเอาผิดเจ้าหน้าที่

ตำรวจมอบสำนวนค้ามนุษย์ 3,500 หน้าให้ดีเอสไอแล้ว เตรียมใช้ข้อมูลชำระบัตรเครดิตโยงบัญชีส่วยเอาผิดเจ้าหน้าที่

ศาลอาญาอนุมัติหมายจับนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ อายุ 61 ปี และนางนิภา วิระเทพสุภรณ์ หรือธีระตระกูลวัฒนา อายุ 68 ปี ตามที่พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ได้ยื่นคำร้องในความผิด 12 ข้อหา เช่น ร่วมกันค้ามนุษย์ แสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี ร่วมเป็น ผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหาหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหญิง เป็นผู้รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อสั่งการไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ เฝ้าระวังติดตามบุคคลตามหมายจับไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ

สำหรับนายกำพลเป็นบุคคลที่นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าของสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท ให้การยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้ขายกิจการให้

พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ที่ปรึกษา (สบ 10) กล่าวว่า ได้ส่งมอบสำนวนการสอบสวนคดีค้ามนุษย์ สถานบริการ อาบอบนวดวิคตอเรียซีเครทให้พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้วเพื่อไปดำเนินการต่อในส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ผ่านมาตำรวจสอบปากคำผู้กล่าวหา 2 ปาก สอบปากคำผู้ต้องหา 8 ปาก และพยานอีก 94 ปาก มีเอกสารสำนวนจำนวน 3,500 หน้า

พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ กล่าวว่า ตำรวจพยายามเอาผิดถึงปลาใหญ่ อย่างคดีนี้คดีใหญ่ มาถึงขณะนี้ก็ต้องไปถึงปลาใหญ่ได้แน่นอน

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ในส่วนของพยานหลักฐานที่ตรวจยึดจากวิคตอเรียซีเครท ไม่ว่าจะเป็นกล้อง วงจรปิด บัญชีการเข้าใช้บริการของแขก รวมถึงข้อมูลการจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตเป็นข้อเท็จจริงในสำนวนที่ดีเอสไอต้องสอบสวนไปถึงตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น วัน เวลา และหมอนวดที่ให้บริการแขก จะต้องนำไปตรวจสอบเปรียบเทียบกับภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด และสอบยืนยันข้อมูลกับการชำระค่าบริการด้วยบัตรเครดิต เพื่อให้ได้หลักฐานยืนยันตัวบุคคล ซึ่งถูกระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องในบัญชีของวิคตอเรียฯ