ดีเอสไอคุม "วิชัย ปั้นงาม" เจ้าพ่อเงินกู้ฝากขัง-ค้านประกัน

ดีเอสไอคุมตัว "วิชัย ปั้นงาม" เจ้าพ่อเงินกู้ฝากขังครั้งแรกพร้อมค้านประกัน เผยหนีไปต่างประเทศก่อนตัดสินใจเข้ามอบตัว

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. เวลา 12.30 น. พ.ต.เอกมล วิชญเนตินัย พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ควบคุมตัว นายวิชัย ปั้นงาม อายุ 47 ปี  เจ้าพ่อเงินกู้รายใหญ่ เครือข่าย วี 8 ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา คดีเป็นอั้งยี่ และประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาตเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 ม.ค.นี้ เนื่องจากต้องสอบพยานสำคัญในคดีนี้ อีก 20 ปาก และตรวจสอบเส้นทางการเงินกับทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด รวมทั้งรอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง กับผลการตรวจประวัติลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา อีกทั้งต้องรอผลสอบสวนขยายผลการกระทำความผิดเนื่องจากมีลักษณะเป็นขบวนการ

โดยพนักงานสอบสวน ก็ได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากเป็นตัวการสำคัญในกลุ่มผู้กระทำความผิด และเมื่อศาลได้ออกหมายจับแล้ว ผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน สามารถเข้าออกนอกราชอาณาจักรได้ตลอดเวลา เกรงว่าหากได้รับการประกันตัวจะหลบหนี

โดยศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้

ทั้งนี้สำหรับคำร้องฝากขัง บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อเดือน ต.ค.57 จนถึงปัจจุบัน นายวิชัย กับพวกผู้ต้องหาเป็นผู้ครอบครองดูแลเครือข่ายปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยรวมกันเป็นคณะบุคคลชื่อ วี 8 มีลักษณะเป็นองค์ธุรกิจขยาดใหญ่ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่หมู่บ้านรัตนโกสินทร์สมโภชน์ 200 ปี ที่ตั้งใน ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และมีสาขาทั่วประเทศมากกว่า 86 สาขา พนักงานมากกว่า 2,000 คน กับรถจักรยานยนต์ที่ใช้ดำเนินการกว่า 1,500 คัน

โดยวิธีปล่อยเงินกู้และคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 20 ต่อ 24 วัน คิดเป็นร้อยละ 300 ต่อปี ซึ่งเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ร้อยละ 15 ต่อปี

ซึ่งสำนักงานใหญ่เป็นสถานที่ควบคุม สั่งการเครือข่ายสาขาทั่วประเทศในการปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมายให้แก่ประชาชนทั่วไป มีระบบป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในสถานที่สำนักงานใหญ่ ขณะการดำเนินการนั้นมีลักษณะปกปิด ตั้งแต่การรับสมัครพนักงานโดยผู้สมัครจะต้องรู้จักหรือได้รับการแนะนำจากผู้ที่เป็นพนักงานอยู่ก่อน เมื่อสมัครเรียบร้อยแล้วจะส่งไปทำงานประจำสาขาต่างๆ

ส่วนการปล่อยเงินกู้ จะเก็บหลักฐานจากผู้กู้เป็นสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน โดยไม่ทำสัญญาเงินกู้เพื่อ ทั้งนี้จะมีการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เก็บข้อมูลรายชื่อลูกหนี้ทั้งหมด รายละเอียดการผ่อนชำระรายวัน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ เกือบทุกจังหวัด โดยมีการทำบัญชี สามารถออนไลน์เชื่อมโยงส่งต่อไปยังบุคคลในองค์กรได้

โดยช่วงเช้าวันที่ 17 ม.ค.61 "นายวิชัย" ผู้ต้องหา ได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2454/2559 ลงวันที่ 14 ธ.ค.59 ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาร่วมกันเป็นอั้งยี่ โดยเป็นหัวหน้า ผู้จัดการหรือผู้มีตำแหน่งหน้าที่ในคณะบุคคลนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 วรรคสอง และประกอบธุรกิจให้สินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาตและเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475 มาตรา 3 ประกอบประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ลงวันที่ 26 ธ.ค.57 ข้อ 5 ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา