ดีเอสไอเตรียมรับคดีค้ามนุษย์วิคตอเรียซีเครทเป็นคดีพิเศษ

อธิบดีดีเอสไอ เตรียมเซ็นรับคดีค้ามนุษย์วิคตอเรียซีเครทเป็นคดีพิเศษ หลังพบลักลอบนำเด็กต่ำกว่า 18 ปีค้าบริการทางเพศ

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีค้ามนุษย์วิคตอเรียซีเครทว่า พร้อมเซ็นอนุมัติรับคดีการค้ามนุษย์และลักลอบค้าประเวณีในสถานบริการวิคตอเรียซีเครท เพื่อให้สน.วังทองหลางโอนสำนวนการสอบสวนมาให้ดีเอสไอสอบสวนตามพ.ร.บ.สอบสวนคดีพิเศษฯ ในทุกสำนวนคดี ทั้งคดีค้ามนุษย์หรือคดีการค้าประเวณี ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันระหว่างการค้ามนุษย์ในปี 2560 และการตรวจค้นเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากพบหลักฐานขณะจับกุมรวมทั้งผลการตรวจมวลกระดูกพบว่ามีการลักลอบนำหญิงอายุไม่ถึง 18 ปีมาบังคับค้าประเวณี ซึ่งถือเป็นคดีใหญ่ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ

ในส่วนของกลางจากตู้เซฟ 3 ตู้ที่อายัดมาจากสถานบริการวิคตอเรียซีเครท สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กำลังเร่งคัดแยกและจัดทำบัญชีของกลาง ส่วนเงินที่พบในตู้เซฟส่วนใหญ่เป็นการแยกเก็บเป็นซองตามรายชื่อหญิงบริการ ซึ่งเบื้องต้นสันนิฐานว่าเป็นเงินค่าตัวหญิงบริการ

ด้านพ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ผลการคัดแยกเหยื่อเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมาพบว่ามีเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปีเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ 4 ราย และมีหญิงสาวที่ถูกบังคับขู่เข็ญให้ค้าประเวณีอีก 2 ราย ซึ่งเข้าข่ายเป็นการค้ามนุษย์ ดังนั้น คดีที่ส่งให้สน.วังทองหลางดำเนินการดีเอสไอจะขอโอนกลับมา เนื่องจากเป็นคดีพิเศษทั้งหมด โดยจะตั้งข้อกล่าวหาค้ามนุษย์กับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ขณะนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างดำเนินการรวบรวมหลักฐานขอออกหมายจับเพิ่มเติมบุคคลที่มีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อีก 2 ราย พร้อมทั้งจะเรียกบุคคลที่มีรายชื่อถือหุ้นใหญ่บริษัทออนเซ็น จำกัด มาสอบปากคำ เนื่องจากการจับกุมไม่ใช่เป็นความผิดซึ่งหน้าแต่มาพบความผิดฐานค้ามนุษย์พบในภายหลังจึงยังไม่สามารถจับกุมผู้ประกอบการได้จนกว่าจะรวบรวมหลักฐานเสร็จสิ้นแล้วจึงขอออกหมายจับ โดยวันนี้ที่ประชุมจะเร่งให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม