posttoday

17ม.ค.ได้ข้อสรุปขึ้นค่าแรง-ลูกจ้างคาดปรับเพิ่มได้แค่12บาท

16 มกราคม 2561

ปลัดแรงงานมั่นใจ ถกขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 17 ม.ค.ต้องจบ ขณะที่ฝ่ายลูกจ้างคาดปรับเพิ่มได้แค่ 12 บาท

ปลัดแรงงานมั่นใจ ถกขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 17 ม.ค.ต้องจบ ขณะที่ฝ่ายลูกจ้างคาดปรับเพิ่มได้แค่ 12 บาท

นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า การพิจารณา ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของคณะกรรมการ ค่าจ้าง ต้องจบในวันที่ 17 ม.ค.นี้ เพราะการประชุมมีทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ดังนั้น ต้องให้ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจด้วย โดยนำเกณฑ์ของแต่ละจังหวัด มาพิจารณาซึ่งมีอนุกรรมการค่าจ้าง จังหวัดเสนอเข้ามาจึงต้องพิจารณาว่า มีการทบทวนหรือไม่ และนำข้อเสนอ ดังกล่าวนำมาคิดคำนวณว่าถูกต้องตามสูตรคำนวณ

นายประจวบ พิกุล กรรมการค่าจ้างฝ่ายลูกจ้าง กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการค่าจ้างในวันที่ 17 ม.ค.นี้ จะต้องได้ข้อสรุปค่าจ้างขั้นต่ำ เพราะไม่ได้มีข้อยืดเยื้ออะไรมาก เหลือเพียงแบ่งกลุ่มจังหวัดปรับค่าจ้างเป็นกี่กลุ่ม ทั้งนี้ เดิมทีในการประชุมมีข้อเสนอถึง 20 กลุ่ม 20 ขั้นบันได ซึ่งมีจำนวนมากเกินไป และในหลายจังหวัดทางอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดไม่ขอปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอีก เช่น จ.ระนอง

นายประจวบ กล่าวว่า การปรับค่าแรงครั้งนี้จำเป็นต้องขึ้นทุกจังหวัด เพียงแต่ว่าต้องจัดกลุ่มให้เหมาะสม ซึ่งควรอยู่ที่ 4 กลุ่มขั้นบันได โดยแต่ละกลุ่มจังหวัดควรคิดตามค่าจีดีพีของ จังหวัดนั้นๆ และประสิทธิภาพแรงงาน ซึ่งจะแบ่งไม่เท่ากัน

ทั้งนี้ เดิมทีค่าแรงขั้นต่ำที่จะถูกปรับขึ้น มีการพูดกันว่าอยู่ที่ 3 บาท แต่ฝั่งลูกจ้างมองว่าขึ้นค่าจ้างจาก 300 บาทมาเป็นวันละ 303 บาท จะเพียงพอค่าครองชีพกับสอดคล้องกับเศรษฐกิจของจังหวัดจริงหรือไม่ก็ต้องมาคำนวณ ตรงนี้ ยังไม่ทราบว่ากลุ่มจังหวัดที่ได้ต่ำสุดจะได้เท่าไร แต่สูงสุดคงไม่น่าจะเกิน 12 บาท

นายอรรถยุทธ์ ลียะวณิช ประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ค้าและบริการเครื่องอุปโภคบริโภค กล่าวว่า คง ไม่สามารถตอบได้ว่าเงินค่าจ้างขั้นต่ำ ที่จะปรับขึ้นในปี 2561 นั้นจะขึ้นมากหรือน้อยสุดเท่าไร โดยหลักการแล้ว จะพิจารณาจาก 1.ความจำเป็นของ ลูกจ้างที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ 2.ความสามารถของนายจ้างที่จะจ่ายได้มาก น้อยแค่ไหน และ 3.ผลิตภัณฑ์มวลรวมทั้งประเทศเป็นอย่างไร และจะพิจารณาแบบรายจังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัดก็มี ความแตกต่างกันไปในเรื่องของเศรษฐกิจ การจ้างงานต่างๆ

ภาพประกอบข่าว