posttoday

สสส.แนะพ่อแม่เล่น"จ๊ะเอ๋"กับลูกต่ำ 2 ขวบ ช่วยพัฒนาสมอง

10 มกราคม 2561

“บิ๊กฉัตร”มอบของขวัญเด็กไทย “สิ่งเล็กๆที่สร้างลูก” ชู 5 เครื่องมือดูแลลูกยุคใหม่แนะ“เล่นจ๊ะเอ๋” ในเด็กต่ำกว่า 2 ขวบช่วยพัฒนาการทางสมองอย่างคาดไม่ถึง

“บิ๊กฉัตร”มอบของขวัญเด็กไทย “สิ่งเล็กๆที่สร้างลูก” ชู 5 เครื่องมือดูแลลูกยุคใหม่แนะ“เล่นจ๊ะเอ๋” ในเด็กต่ำกว่า 2 ขวบช่วยพัฒนาการทางสมองอย่างคาดไม่ถึง

เมื่อวันที่ 10 ม.ค.60 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) เป็นประธานงานของขวัญเด็กไทย "สิ่งเล็กๆที่สร้างลูก"เน้นการการพัฒนาเด็กช่วงปฐมวัย อายุ 0-5 ปี มอบของขวัญเด็กไทย 5 เครื่องมือที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการลูก ประกอบด้วย 1.คู่มือสิ่งเล็กๆที่สร้างลูก คู่มือพัฒนาลูกจากสิ่งใกล้ตัว 2.นิทานจ๊ะเอ๋ สื่อที่สร้างสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว 3.คู่มือและโปสเตอร์เฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย เพื่อตรวจวัดพัฒนาการของเด็กว่าตรงตามเกณฑ์สมวัยหรือไม่ รวมถึงแอปพลิเคชัน คุณลูก ผู้ช่วยติดตามประเมินและส่งเสริมพัฒนาการลูกในฉบับพกพาบนมือถือ 4.ห้องเรียนพ่อแม่ กิจกรรมที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงกับผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กอย่างใกล้ชิด ซึ่ง SOOK by สสส. จะจัดสัญจรไปทั้ง 4 ภาค พร้อมกับทำงานร่วมกับเครือข่ายศูนย์พัฒนาเด็กเล็กใน 30 จังหวัด 2,000 แห่ง เครือข่ายผู้ปกครอง และเครือข่ายโรงพยาบาลเพื่อต่อยอดในพื้นที่  และ 5.สื่อรณรงค์ ที่หยิบยกเรื่อง การเล่นจ๊ะเอ๋ และการอ่านนิทานมาเป็นตัวอย่างง่ายๆที่ส่งเสริมพัฒนาการลูกได้ ออกมาในรูปแบบ ภาพยนตร์โฆษณาและคลิปออนไลน์ จำนวน 5 เรื่อง โดยเครื่องมือต่างๆนี้ จะถูกส่งมอบกระจายไปยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงพยาบาล เครือข่ายด้านเด็กต่างๆทั่วประเทศ และเปิดให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้ดาวน์โหลดฟรี ด้วย QR Code ผ่าน www.khunlook.com และเฟซบุ๊คเพจ สิ่งเล็กๆที่สร้างลูก

 

สสส.แนะพ่อแม่เล่น"จ๊ะเอ๋"กับลูกต่ำ 2 ขวบ ช่วยพัฒนาสมอง

 

 

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า จากข้อมูลผลสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย ปี 2558-2559 โดยองค์การยูนิเซฟประเทศไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติ และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พบว่า ผู้ใหญ่ในครัวเรือน อย่างปู่ย่า ตายาย มีบทบาทสูงต่อการส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กในช่วงอายุ 3-5 ปีถึง 92.7% ขณะที่บทบาทของแม่ในการส่งเสริมการเรียนรู้อยู่ที่ 62.8% ตามด้วยบทบาทของพ่อ 34% ที่น่าสนใจคือ พบว่าเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่เล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต เครื่องเล่นเกม สูงถึง 50% และเกือบ 7 ใน 10 ของเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไป เล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเฉพาะเด็กในกทม. และภาคใต้ ซึ่งการเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่อายุยังน้อยอาจส่งผลให้เกิดภาวะสมาธิสั้นได้

นอกจากนี้ ยังพบช่องว่างของพัฒนาเด็กเล็กตามระดับการศึกษาของแม่และฐานะทางเศรษฐกิจ โดยพบว่า เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่มีหนังสือสำหรับเด็กอย่างน้อย 3 เล่ม มีเพียง 41.2% เท่ากับว่าอีก 59% มีหนังสือเด็กในบ้านไม่ถึง 3 เล่ม โดยเด็กที่ร่ำรวยมีหนังสือสำหรับเด็กในสัดส่วนที่มากกว่ากลุ่มที่ยากจนถึง 3 เท่า ดังนั้นการเลี้ยงดูในบ้านเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับพัฒนาการของเด็กในวัยนี้ ซึ่งทุกครอบครัวมีต้นทุนไม่แพ้กันคือความรักความเอาใจใส่ เครื่องมือสิ่งเล็กๆที่สร้างลูก จึงถูกออกแบบจากสิ่งใกล้ตัว ง่ายๆ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการลูกได้ ด้วยอุปกรณ์ราคาศูนย์บาท

พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การเล่นจ๊ะเอ๋กับลูกในช่วง2ปีแรกแฝงความมหัศจรรย์ที่ช่วยให้สมอง และพัฒนาการของเด็กในหลายด้านถูกกระตุ้นอย่างที่ผู้ใหญ่คาดไม่ถึง ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องการคงอยู่ของสิ่งต่างๆ จากการที่ผู้ใหญ่ปิดตาหรือซ่อนแอบ ช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านการสื่อสารระหว่างกัน ฝึกการจดจำข้อมูล โดยเด็กจะจำว่าผู้ปกครองชอบโผล่ทางไหน และคาดเดาว่าครั้งต่อไปจะเป็นทิศทางใด ฝึกให้รู้จักรอคอย ช่วงเวลาที่ปิดหน้า หรือซ่อนหลังสิ่งของ เด็กจะรู้จักรอคอยว่าเมื่อไหร่จะเปิดตาหรือโผล่ขึ้นมา และเกิดสายสัมพันธ์ความผูกพันในหัวใจของลูก.